ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น.ของวันที่ 19 ก.พ.64 ที่ผ่านมา ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 61 หมู่ 5 บ้านดอนคราม ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
นายไพโรจน์ หรือเผือก ภูู่ฉุน อายุ 61 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาที่ถูกซัดทอดในคดีร่วมกันค้ายาเสพติด และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วง ร่วมกับหน่วยงาน ปปส.นำกำลังบุกค้นบ้านตามหมายค้น แต่ไม่พบของกลาง เมื่อวันที่ 6 ก.พ.64 ที่ผ่านมา
โดยเจ้าหน้าที่ ปปส.ใช้มาตรการยึดทรัพย์สินต่างๆ ได้แก่ ฝูงวัวพันธุ์ผสมบามัน จำนวน 267 ตัว รถยนต์ 3 คัน รถไถนา 1 คันและเครื่องอัดฟาง 1 เครื่อง ซึ่งบรรดาญาติๆ ของผู้ต้องหาได้ใช้หลักทรัพย์ประกันตัวในชั้นศาล และเห็นว่าการกระทำของตำรวจและเจ้าหน้าที่ ปปส.ที่นำกำลังเข้าทำการตรวจค้นไม่พบของกลางและยึดทรัพย์สินต่างๆ ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วงฯ พร้อมทั้งว่าจ้างทนายความให้มาช่วยเหลือในคดีท่ามกลางกลุ่มเพื่อนบ้านและอดีตผู้ใหญ่บ้าน 2 หมู่และพระสงฆ์เดินทางมาเป็นกำลังใจให้แก่นายไพโรจน์ หรือเผือก ภู่ฉุน เป็นจำนวนมาก
ด้านนายไพโรจน์ หรือเผือก ภู่ฉุน ผู้ถูกซัดทอดจนตกเป็นผู้ต้องหาในคดียาเสพติดครั้งนี้ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "ที่ผ่านมา ตนมีอาชีพทำการเกษตรและเพาะเลี้ยงโคขุนลูกพันธุ์ผสมบามันขาย ซึ่งตนมีวัวอยู่ทั้งหมด 40 ตัว นอกนั้นเป็นวัวของญาติๆ และพี่ป้า น้าอา เพื่อนบ้านนำมาฝากเลี้ยงไว้ในฝูง
ต่อมาเมื่อวันที่ 6 ก.พ.64 ที่ผ่านมาได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและ ปปส.นำหมายค้นมาค้นบ้าน โดยแจ้งว่ามีผู้ต้องหาค้ายาเสพติดที่ถูกจับได้ซัดทอดกล่าวหาว่า ตนมีส่วนเกี่ยวข้อง และอยู่เบื้องหลังกับการค้ายาเสพติดครั้งนี้ ซึ่งตนก็ไม่รู้จัก เจ้าหน้าที่จึงใช้มาตรการยึดทรัพย์ฝูงวัว จำนวน 200 กว่าตัว รวมทั้งรถยนต์ รถไถนาและเครื่องอัดฟางข้าวไป อยู่ๆ เจ้าหน้าที่ ปปส.ได้ให้ตนเซ็นต์ชื่อยินยอมเพื่อนำวัวทั้งฝูง ไปประมูลขายทอดตลาด โดยอ้างว่าไม่สามารถดูแลเลี้ยงดูได้
ตนและญาติๆ เห็นว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการกระทำของตำรวจและเจ้าหน้าที่ ปปส.การตรวจค้นบ้านก็ไม่พบของกลาง แถมถูกซัดทอดจากคนที่ตนไม่รู้จัก และการยึดทรัพย์วัวทั้งฝูงก็ไม่ใช่เป็นของตนทั้งหมด มีของบรรดาญาติและเพื่อนบ้านในหมู่บ้านรวมอยู่ด้วย อีกทั้งคดี ศาลยังไม่มีการชี้มูลความผิด จะเอาวัวทั้งฝูงไปขายทอดตลาดได้อย่างไร ตนและญาติๆ รวมทั้งเพื้อนบ้านในหมู่บ้าน เห็นว่าการกระทำของตำรวจและเจ้าหน้าที่ ปปส.ไม่ได้ให้ความเป็นธรรมแด่ตนเลย จึงใคร่ร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว
ทั้งนี้ปรึกษาทนายความเพื่อขอความช่วยเหลือโดยได้รับคำแนะนำให้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อขอความเเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อ ซึ่งตนงงมากว่า ศาลสถิตย์ยุติธรรม ยังไม่ชี้มูลความผิด คดียังไม่จบ แต่ทำไมจะเอาฝูงวัวของตนที่มีวัวของญาติๆ และของชาวบ้านรวมอยู่ด้วยไปขายทอดตลาด ตนพร้อมที่จะให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ ตนจึงอยากใคร่ขอความเป็นธรรมด้วย" อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้ต้องหาที่ถูกซัดทอดกล่าวทิ้งท้าย