เมื่อวันที่ 19 ก.พ. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงดำเนินการวางแผนและเตรียมพร้อมปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง การเติมน้ำในเขื่อน และอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% การบรรเทาปัญหาพายุลูกเห็บ รวมถึงการบรรเทาปัญหาหมอกควันไฟป่า ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกองทัพอากาศและกองทัพบก ในการสนับสนุนอากาศยานและกำลังพลเพิ่มเติม เพื่อให้การปฏิบัติการฝนหลวงเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งจากผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ (18 ก.พ.64) หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงโดยใช้เครื่องบิน Casa จำนวน 2 ลำ ปฏิบัติภารกิจในขั้นตอนที่ 3 (โจมตี) เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควันและไฟป่า ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่ป่าไม้ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการช่วยเหลือบรรเทาสถานการณ์หมอกควันและไฟป่า ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มีการปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าช่วยเหลือพื้นที่ภาคเหนือมาอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ได้สนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 1 ลำ บรรทุกน้ำจำนวน 7,500 ลิตร ช่วยดับไฟป่าบริเวณเขาดอยหลวง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 15 เที่ยวบิน และวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 บรรทุกน้ำจำนวน 3,000 ลิตร ดับไฟป่าบริเวณเขาดอยหลวง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 6 เที่ยวบิน ทั้งนี้ ภารกิจดังกล่าวเป็นการทำงานบูรณาการร่วมกันระหว่างกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมฝนหลวงและการบินเกษตร อย่างไรก็ตาม หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงฯ 8 หน่วย ทั่วทุกภูมิภาค ยังคงติดตามสภาพอากาศเป็นประจำทุกวัน เพื่อวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำในทุกพื้นที่ ทั้งนี้ เกษตรกรและพี่น้องประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวง และติดตามข้อมูลข่าวสารกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ทางเพจ Facebook, Line official account, Instagram, Twitter และเว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่ หรือหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100