เมื่อวันที่ 19 ก.พ.64 หุ้น KISS หรือ บมจ.โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้พัฒนานวัตกรรมและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ Rojukiss,PhDerma,Best Korea,Wonder Herb และ Sis2Sis ได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก โดยทันทีที่เข้าเทรด ราคาเปิดอยู่ที่ 15.00 บาท เพิ่มขึ้น 6 บาท จากราคาจองซื้อที่ 9 บาท
นางวรวรรณ ไชยกำเนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS เปิดเผยว่า บริษัทได้นำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรก 19 กุมภาพันธ์ 2564 ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในหมวดอุตสาหกรรมความงามและสุขภาพ โดยใช้ชื่อย่อ ‘KISS’ ในการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งเชื่อมั่นว่าศักยภาพของบริษัทจะช่วยสนับสนุนให้ KISS เป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน ด้วยวิสัยทัศน์ ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านความงามและสุขภาพของเอเชียหรือ True Health and Beauty Company ตั้งเป้าหมายมีรายได้แตะ 3,000 ล้านบาท ภายในปี 2567 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณร้อยละ 20 ต่อปี นับจากปี 2562
ทั้งนี้บริษัทมีแผนขยายการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศภายใต้งบ 300 ล้านบาท แบ่งเป็น ลงทุน 100 ล้านบาท เพื่อพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์และแบรนด์ใหม่ในประเทศไทย อาทิ ผลิตภัณฑ์แชมพูเปลี่ยนสีผมและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ Rojukiss,ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวภายใต้แบรนด์ใหม่ Wonder Herb รวมทั้งลงทุนอีก 100 ล้านบาท พัฒนาผลิตภัณฑ์และแบรนด์สำหรับช่องทางการขายให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง (Direct-to-consumer: D2C) ผ่านความร่วมมือกับ บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) และอีก 50 ล้านบาทจะลงทุนพัฒนาดิจิทัลและเทคโนโลยี ช่วยผลักดันการพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง อาทิ Mobile Skin Analysis เครื่องมือวิเคราะห์สภาพผิวของผู้บริโภค เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว
โดยผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ทันทีผ่านการเชื่อมต่อช่องทาง E-commerce อีกทั้งบริษัท มีแผนงานมุ่งส่งเสริมความแข็งแกร่งในตลาดอาเซียนผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญในการทำตลาด ด้วยเงินลงทุนอีก 50 ล้านบาทใน 2 ประเทศหลักได้แก่ อินโดนีเซียและเวียดนาม ซึ่งตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพมีศักยภาพเติบโตสูง โดยเฉพาะการเติบโตของช่องทางออนไลน์ (E-Commerce) บริษัทได้ศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) กับบริษัทท้องถิ่นในประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนี้จะเริ่มขยายธุรกิจสู่ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามผ่านช่องทางออนไลน์ในประเทศเวียดนาม
น.ส.วีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า KISS มีจุดแข็งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่แตกต่างจากการใช้ความได้เปรียบจากการเป็นบริษัท Asset Light และการมีเครือข่ายพันธมิตรชั้นนำระดับโลก ที่เอื้อต่อการคิดค้นพัฒนานวัตกรรม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการใหม่ๆ ของผู้บริโภค ทำให้ KISS เป็นบริษัทที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพ โดยมีส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นแม้ในสถานการณ์ Covid-19 และมีอัตรากำไรสุทธิที่สูง ประมาณร้อยละ 17 และ 19 ในปี 2562 และงวด 9 เดือนแรก ปี 2563 ตามลำดับ มั่นใจว่า KISS เป็นบริษัทที่เติบโตได้อย่างยั่งยืน