สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เตรียมปรับหลักเกณฑ์เรื่องประธานกรรมการและผู้บริหารสูงสุดของบริษัทจดทะเบียนที่เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชน (Secondary Public Offering: SPO) ต้องไม่เป็นบุคคลเดียวกันให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และสอดคล้องกับหลักเกณฑ์การดำรงสถานะของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามที่ ก.ล.ต.ได้ให้ความสำคัญกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทจดทะเบียนโดยออกหลักเกณฑ์ที่กำหนดให้บริษัทที่เสนอขายหุ้นต่อประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการเสนอขายต่อประชาชนครั้งแรก (Initial Public Offering: IPO) หรือการเสนอขายต่อประชาชนเมื่อเป็นบริษัทจดทะเบียนแล้ว (SPO) ผู้ที่ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดจะต้องไม่เป็นบุคคลเดียวกัน ซึ่งเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 นั้น น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นแก่บริษัทจดทะเบียน และสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่เกี่ยวกับการดำรงสถานะของบริษัทจดทะเบียนในเรื่องตำแหน่งประธานกรรมการและตำแหน่งผู้บริหารสูงสุด ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 ได้มีมติเห็นชอบในหลักการเรื่องการผ่อนปรนให้มีผู้ดำรงทั้งสองตำแหน่งดังกล่าวเป็นบุคคลเดียวกันได้สำหรับบริษัทที่ได้เข้าจดทะเบียนก่อนวันที่ 1 มกราคม 2564 จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงประธานกรรมการหรือผู้บริหารสูงสุดหรือเมื่อครบวาระดำรงตำแหน่ง แล้วแต่กรณีใดจะถึงก่อน ก.ล.ต. จึงเห็นควรปรับปรุงหลักเกณฑ์สำหรับการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทจดทะเบียนต่อประชาชน ดังนี้ (1) ให้ประธานกรรมการและผู้บริหารสูงสุดเป็นบุคคลเดียวกันได้ กรณีที่บริษัทข้างต้นยื่นคำขอเสนอขายหุ้นในระยะเวลาที่ได้รับการผ่อนปรนตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ข้างต้น (2) กรณียื่นคำขอเสนอขายหุ้นเมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว หากบริษัทไม่สามารถแยกบุคคลดังกล่าวเป็นคนละคนกัน ให้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมด้านมาตรการหรือกลไกในการถ่วงดุลอำนาจระหว่างคณะกรรมการและฝ่ายจัดการ และแผนดำเนินการที่จะแยกบุคคลที่ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการออกจากผู้บริหารสูงสุด ทั้งนี้ ก.ล.ต.พร้อมสนับสนุนการใช้ตลาดทุนเป็นแหล่งระดมทุนโดยมีกฎเกณฑ์เท่าที่จำเป็น โดยที่ผู้ลงทุนยังได้รับการคุ้มครองสิทธิอย่างเหมาะสม