เมื่อวันที่ 2 กันยายนย 2559 พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่ประชุมติดตามการบูรณาการปฏิบัติการฝนหลวงเติมน้ำในเขื่อนภูมิพลการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ทั้งนี้เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพล เพื่อการเกษตรอย่างเป็นระบบโดยมุ่งเน้นมาตรการดูแลแก้ไขปัญหาให้แก่เกษตรกรทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว อีกทั้งเชื่อมโยงกับการปฏิบัติการฝนหลวง/ประเภท/ปริมาณพืชผลทางการเกษตรในแต่ละฤดูกาล และกลไกราคาตลอดจนต้นทุนการผลิด โดยมีนายสุทธา สายวาณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก และนายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล ได้บรรยายสรุปข้อมูลสถานการณ์ทั่วไปและให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมสายชล (ชั้น 2) อาคารที่ทำการเขื่อนภูมิพล , อาคารสิริชล และบริเวณสันเขื่อนภูมิพล ซึ่ง รมว.เกษตรฯ ได้เดินทางไปดูสถานการณ์น้ำในเขื่อนภูมิพลนั้น พบว่าในปี 2559 นี้ยังคงมีน้ำไหลเข้าอ่างน้อยมาก ต้องมีการทำฝนหลวงต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงพื้นที่ติดตามการบูรณาการปฏิบัติการฝนหลวงเติมน้ำในเขื่อน ณ เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก เพื่อปรับแผนการปฏิบัติการฝนหลวง โดยได้มอบนโยบายแก่กรมส่งเสริมการเกษตร ให้สื่อสารข้อมูลที่สำคัญไปยังเกษตรกร ควรปรับเปลี่ยนการปลูกพืชให้เหมาะสมและสอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจ และสามารถเลือกปลูกพืชได้อย่างเหมาะสม ขณะเดียวกันมอบหมายให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ให้หาแนวทางปฏิบัติการช่วยเหลือและสนับสนุนการเติมน้ำในเขื่อนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพล ขณะนี้มีน้ำ 4,748 ล้าน ลบ.ม. แต่เป็นน้ำใช้การได้ประมาณ 948 ล้าน ลบ.ม. หรือประมาณ 9% ของความจุเขื่อน ทั้งนี้กรมฝนหลวงฯ จะดำเนินการปรับการบินเพื่อให้สอดคล้องและพร้อมรับมือตามสถานการณ์ รวมทั้งขยายระยะเวลาปฏิบัติการฝนหลวงไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2559 นี้