อดีตผู้รับเหมาเข็นผัก เครียดทำงานไม่ได้ตั้งแต่พิษโควิด เขียนจดหมายลาภรรยาก่อนไปผูกคอกับลูกบิดประตูดับคาห้องพัก ย่านวัดกัลยาณ์ วันที่ 15 ก.พ.64 เวลา 19.00 น. พันตำรวจโท เปรม จันทโชติ สว.(สอบสวน) สน.บุปผาราม ได้รับรายงานว่ามีเหตุผู้เสียชีวิตสาเหตุผูกคอ ภายในซอยวัดกัลยาณ์ 3 จึงประสานแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มาที่เกิดเหตุทันที จุดเกิดเหตุ เป็นห้องพักคนงานเลขที่ 263/1 ชั้นเดียว มี 10 ห้อง เหตุเกิดห้องที่ 4 ซอยวัดกัลยาณ์ 3 แขวงวัดกัลยา เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อายุ 54 ปี สวมใส่เสื้อโปโลกรมท่าลายทาง กางเกงขาสั้นสีเทาลายทาง ใช้เชือกสีขาวแบบเงื่อนลูกเสื้อ ผูกคอกับลูกบิดประตู สอบถามทางภรรยา นางสาวประยม รุตรักษ์ อายุ 53 ปี บอกว่า อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่อายุ 20 แล้วก็มีช่วงโควิด ปีที่แล้ว ที่ทำงานไม่ได้ เพราะขาเค้าบวม เจ็บ เลยเครียด แต่เราก็ทำงานเลี้ยงเค้านะ ค่าบ้านค่าใช้จ่ายเราก็จ่ายให้หมด ก็มีบ่นเครียดเรื่องงานนี่แหละ ว่าทำงานไม่ได้แล้ว ปกติเค้าก็เป็นคนนิสัยดีนะ ไม่ใช่คนเกเร ก่อนหน้านี้เค้าทำรับเหมาเข็นผักที่ปากคลองตลาดก็ช่วยกันทำตลอด ส่วนทางเพื่อนบ้านข้างห้อง ชื่อนาย ทูล สงฆ์ธรรม อายุ 59 ปี บอกว่า ตนจะทำกับข้าวกินด้วยกันทุกวัน วันนี้ผ่านห้องแล้วเคาะเรียกเหมือนเช่นทุกวันแต่ไม่ได้ยินเสียงตอบเพราะทุกครั้งจะตอบรับมา เดินกลับมาเรียกอีกรอบก็เงียบอีก เลยเอะใจ ว่าปิดสังเกตุจึงแง้มหน้าต่างบานเก็ดดูก็เห็นผูกคอแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาดูเพราะตนก็ไม่กล้าเข้าไปดู ้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบพบกระดาษเขียนด้วยลายมือ มีข้อความว่า แม่ฉันขอลาก่อนนะแม่ ไม่ต้องเสียใจนะเพราะฉันทำงานไม่ได้ดูแลตัวเองด้วยนะแม่ ดูลูกด้วยนะ แม่หาเงินได้ แม่กลับไปอยู่บ้านนะแม่ แม่โทรให้พระมารับกลับไปบ้านด้วย แม่ทำบุญให้ฉันด้วยนะ ฉันรักแม่ตลอดไปนะ เกิดชาติหน้าขอให้แม่มาเจอกันใหม่ รักแม่เสมอ เจ้าหน้าที่จึงบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนทางแพทย์นิติเวชสันนิษฐานการเสียชีวิตจากการขาดอาการหายใจโดยใช้เชือกผูกคอ จึงมอบให้อาสานำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อกาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนจะให้ญาติมารับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป