วันที่ 15 ก.พ. 64 นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ เปิดเผยถึงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ตามที่พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นญัตติว่า การอภิปรายในครั้งนี้เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะต้องตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล และพบว่า รัฐบาลบริหารประเทศมา 2 ปี สร้างความเสียหายให้ประเทศมากแค่ไหน
“รัฐบาลบริหารประเทศมาเพียง 2 ปี แต่ทำลายทุกอย่าง ทั้งการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ที่รายได้เข้าประเทศมหาศาลแต่ก็มาพัง เพราะการบริหารประเทศที่ไร้ความรับผิดชอบ ไร้ประสิทธิภาพ มองไม่เห็นความทุกข์ยากของประชาชน เพราะตลอดชีวิตพล.อ.ประยุทธ์ ได้ทุกอย่าง ทั้งบ้านพักฟรี น้ำไฟฟรี ต่างจากประชาชนที่บ้านต้องเช่า ข้าวต้องซื้อ ค่าน้ำ ค่าไฟ ต้องจ่าย ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์จึงไม่รู้ว่า ประชาชน ลำบากแค่ไหนกับการบริหารของท่าน”
นายสงคราม กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ รับแต่คำอวยของบรรดาลิ่วล้อว่า นโยบายดี ประชาชนรัก นั่นเพราะบรรดาลูกน้องจัดคนที่จะมาต้อนรับพร้อมกับบทต้องพูดอย่างนี้ ห้ามพูดอย่างอื่น ดังนั้นจากการทำงานงานและรวบรวมข้อมูลข้อ การทุจริต และพบว่า รัฐบาลมีข้อบกพร่องในการบริหารราชการ ทั้งการทุจริตที่มีมากมายหลายโครงการรัฐ งบประมาณมหาศาลที่รัฐใช้ไปไม่ก่อประโยชน์กับประชาชนเลย รัฐบาลทำนโยบายออกมาเพื่อเอื้อให้กับคนใกล้ชิด และเงินมหาศาลที่เป็นของประชาชนตกกับบริษัทเอกชนที่ใกล้ชิดรัฐบาล ดังนั้นการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมาประชาชนไม่อาจไว้วางใจได้
“ขอให้ประชาชน ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ให้ดี ทั้ง 4 วันจะมีการอภิปรายถึงความล้มเหลว การทุจริตและความผิดที่ประชาชนรับไม่ได้ ที่พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า เสียสละนั้นไม่จริง เพราะในการเสียสละนั้นมีราคาที่ประชาชนต้องจ่าย การบริหารประเทศแบบกดขี่ประชาชน ใช้อำนาจเป็นกฎหมาย จึงเป็นการบริหารไม่เห็นหัวประชาชนการแจกเงินแบบโปรยทาน ใครมือยาวสาวได้สาวเอาจึงไม่เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ชัดเจนว่า รัฐมองประชาชนเป็นเพียงขอทาน รัฐบาลที่คิดแบบนี้ไม่ควรที่จะบริหารประเทศสร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน” นายสงคราม กล่าว