วันที่ 15 ก.พ. 2564 จากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือผู้ประสบภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ระลอกสอง จึงได้มีมาตรการการเยียายา โดยเปิดให้ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนและผู้ที่ยังไม่มีบัตรสวัสดิการของรัฐ ให้มาลงทะเบียนด้วยตนเองที่ ธ.กรุงไทย สาขาต่างๆ ทั่วประเทศภายในช่วงระหว่างวันที่ 15 - 25 ก.พ.64 ล่าสุดวันนี้ที่ ธ.กรุงไทย สาขาพิจิตร ได้มีประชาชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนแก่ คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้มีฐานะยากไร้ ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนและผู้ที่ยังไม่มีบัตรสวัสดิการของรัฐ ซึ่งเดินทางมาจากที่ต่างๆใน จ.พิจิตร จำนวนนับพันคน เหตุเพราะ ธ.กรุงไทย ไม่ได้มีสาขาอยู่ในทุกๆอำเภอ จึงทำให้อำเภอที่ไม่มี ธ.กรุงไทย ชาวบ้านจึงต้องแห่กันมาที่ ธ.กรุงไทย สาขาพิจิตร บางคนก็มาตั้งแต่ 6 โมงเช้า รอธนาคารเปิดทำการเพื่อแย่งบัตรคิว ที่เจ้าหน้าที่เปิดให้รับบัตรคิว ที่มีเป้าหมายว่า ในแต่ละวันจะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้เพียงแค่วันละ 200-300 คน แต่ปรากฎว่าพอถึงเวลาดำเนินการจริงๆ ชาวบ้านแห่มาพร้อมๆกัน ในช่วงเช้าเกือบ 2 พันคน ทำให้บรรยากาศวุ่นวายไปหมดเพราะคิดว่าประชาชนจะทอยอยกันมาตามที่จัดสรรให้มาตามรายตำบล ตามรายอำเภอ แต่พอเอาเข้าจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น จึงเป็นเหตุถึงความวุ่นวาย คนเฒ่าคนแก่ต่างบ่นกันระงม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า...ชาวบ้านต่างเสนอแนวความคิดว่า น่าจะประชาสัมพันธ์ให้ชัดเจนกว่านี้แล้วควรจะแบ่งเจ้าหน้าที่ไปให้บริการตาม อบต.หรือ เทศบาลต่างๆ เพราะการที่ต้องให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ คนป่วยติดบ้าน ติดเตียง ต้องหามกันมาสแกนใบหน้าเป็นเรื่องที่วุ่นวาย รวมถึงอยากให้เจ้าหน้าที่ธนาคารจับมือกับสถาบันการศึกษาให้นำนักศึกษามาช่วยกันซักประวัติหรือสอบถามข้อมูลแล้วช่วยกันลงทะเบียนดูจะง่ายกว่าต้องแห่กันมาให้วุ่นวายที่ ธ.กรุงไทย อย่างที่เห็น และเป็นข่าวอยู่นี้