เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 10 ก.พ. ร.ต.ท.พนมกร พูลสวัสดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.แสมดำ รับแจ้งเหตุรถบรรทุกชนกันในปั๊มน้ำมันเชลล์ ถนนพระราม 2 ปากซอย 83 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุบริเวณทางเข้าปั๊มพบ รถบรรทุกตู้แช่ผลิตภัณฑ์นมสด 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 60-8822 กรุงเทพมหานคร ของ บจก.ลีเวย์ จอดอยู่ในสภาพเกยขึ้นบาทวิถีพุ่งชนป้ายบอกทางเข้าปั๊มน้ำมัน ตัวถังฝั่งซ้ายมีร่องรอยถูกเฉี่ยวชนและครูดเป็นแนวยาว ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถ 14 ล้อ พ่วงตู้คอนเทนเนอร์ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 65-7192 กรุงเทพมหานคร ของ บจก.บีไอ โลจิสติกส์ รับส่งสินค้าทั่วราชอาณาจักร
ไถลเข้าไปหยุดอยู่ในปั๊มสภาพด้านหน้ารถยุบเสียหายหลังพุ่งชนกับรถบรรทุกนม แล้วยังแฉลบไปชนเข้ากับตัวถังด้านซ้าย ของรถบรรทุก 10 ล้อ ขนส่งน้ำมันขนาด 20,000 ลิตร ยี่ห้อสแกนเนีย สีขาว ทะเบียน 64-2004 กรุงเทพมหานคร สังกัด บจก.เอสซี กรุ๊ป ซึ่งจอดอยู่เฉยๆ ในปั๊มสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้พบเห็นภาพเหตุการณ์เป็นอย่างมาก โดยอุบัติเหตุครั้งนี้ส่งผลให้ผู้ขับขี่รถพ่วงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ชื่อ นายภาสกร เปี่ยมศักดิ์ อายุ 43 ปี ถูกคอนโซลหน้ารถทับที่ขาทั้ง 2 ข้าง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ช่วยกันใช้อุปกรณ์งัดร่างออกจากตัวรถ นำส่ง รพ.บางปะกอก 8 ให้แพทย์รักษาอย่างเร่งด่วน
จากการสอบสวน นายภิรมย์ กุลธริด อายุ 37 ปี คนขับรถบรรทุกนมสด ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถไปรับนมสดของบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สระบุรี กำลังมุ่งหน้าไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.สมุทรสาคร ระหว่างขับมาถึงจุดเกิดเหตุบนถนนช่องทางเดินรถที่ 2 อยากจอดพักแวะเข้าห้องน้ำจึงเปิดไฟเลี้ยวซ้ายเพื่อส่งสัญญาณเข้าปั๊มน้ำมัน และค่อยๆ หักพวงมาลัยทางซ้ายจะมุ่งหน้าเข้าปั๊ม จู่ๆ รถบรรทุกสินค้าคู่กรณีก็เร่งเครื่องมาทางเลนซ้ายสุดอย่างรวดเร็ว ก่อนพุ่งชนเข้าที่รถตนเข้ากลางลำจนรถเสียหลักปีนบาทวิถีไปชนป้ายทางเข้าปั๊ม ส่วนรถคู่กรณีก็ไถลพุ่งเข้าไปเฉียดหัวจ่ายน้ำมันภายในปั๊มจนพนักงานหน้าลานเติมน้ำมันต้องวิ่งหนีตายอลหม่าน จากนั้นรถคันดังกล่าวก็พุ่งไปชนเข้ากลางลำรถบรรทุกน้ำมันซึ่งจอดอยู่ในปั๊มอยู่แล้วอีกทอดหนึ่งจึงค่อยหยุดนิ่งสนิท
ด้าน นายสุรัต คงกระพันธ์ อายุ 37 ปี คนขับรถบรรทุกน้ำมัน กล่าวว่า นับเป็นโชคดีที่ก่อนเกิดเหตุตนขับรถน้ำมันความจุ 20,000 ลิตร ไปส่งให้ลูกค้าที่ปั๊มสาขาอื่นจนกระทั่งน้ำมันหมดถังแล้ว จึงขับรถมาจอดพักที่ปั๊มแห่งนี้ โดยขณะที่รถคู่กรณีทั้ง 2 คันเฉี่ยวชนกันจากบนถนนบริเวณปากทางเข้าปั๊ม ตนยืนอยู่ท้ายรถพอดี ถือเป็นโชคดีอีกชั้นที่คนขับรถบรรทุกสินค้าโลจิสติกส์ ยังพอมีสติควบคุมรถให้แล่นผ่านเข้ามาในลานบริการเติมน้ำมันได้แบบหวุดหวิดโดยที่ไม่พุ่งชนหัวจ่าย หนำซ้ำเมื่อไถลมาชนกับรถตนยังชนเข้ากับเหล็กกันกระแทกด้านข้างถังบรรทุกน้ำมัน ซึ่งมีความแข็งแรงจึงทำให้ถังบรรทุกน้ำมันไม่ได้รับความเสียหาย
อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวน ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับใคร เบื้องต้นจึงตรวจยึดใบอนุญาตขับขี่ของโชเฟอร์รถทุกคันเอาไว้ และได้ประสานให้ตัวแทนบริษัทประกันภัยของรถที่ประสบอุบัติเหตุทั้ง 3 คัน มาเจรจาชดใช้ค่าเสียหายในที่เกิดเหตุ จากนั้นจะรอให้อาการของผู้ได้รับบาดเจ็บทุเลา ก่อนเรียกทุกฝ่ายมาสอบปากคำเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
ไถลเข้าไปหยุดอยู่ในปั๊มสภาพด้านหน้ารถยุบเสียหายหลังพุ่งชนกับรถบรรทุกนม แล้วยังแฉลบไปชนเข้ากับตัวถังด้านซ้าย ของรถบรรทุก 10 ล้อ ขนส่งน้ำมันขนาด 20,000 ลิตร ยี่ห้อสแกนเนีย สีขาว ทะเบียน 64-2004 กรุงเทพมหานคร สังกัด บจก.เอสซี กรุ๊ป ซึ่งจอดอยู่เฉยๆ ในปั๊มสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้พบเห็นภาพเหตุการณ์เป็นอย่างมาก โดยอุบัติเหตุครั้งนี้ส่งผลให้ผู้ขับขี่รถพ่วงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ชื่อ นายภาสกร เปี่ยมศักดิ์ อายุ 43 ปี ถูกคอนโซลหน้ารถทับที่ขาทั้ง 2 ข้าง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ช่วยกันใช้อุปกรณ์งัดร่างออกจากตัวรถ นำส่ง รพ.บางปะกอก 8 ให้แพทย์รักษาอย่างเร่งด่วน
จากการสอบสวน นายภิรมย์ กุลธริด อายุ 37 ปี คนขับรถบรรทุกนมสด ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถไปรับนมสดของบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สระบุรี กำลังมุ่งหน้าไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.สมุทรสาคร ระหว่างขับมาถึงจุดเกิดเหตุบนถนนช่องทางเดินรถที่ 2 อยากจอดพักแวะเข้าห้องน้ำจึงเปิดไฟเลี้ยวซ้ายเพื่อส่งสัญญาณเข้าปั๊มน้ำมัน และค่อยๆ หักพวงมาลัยทางซ้ายจะมุ่งหน้าเข้าปั๊ม จู่ๆ รถบรรทุกสินค้าคู่กรณีก็เร่งเครื่องมาทางเลนซ้ายสุดอย่างรวดเร็ว ก่อนพุ่งชนเข้าที่รถตนเข้ากลางลำจนรถเสียหลักปีนบาทวิถีไปชนป้ายทางเข้าปั๊ม ส่วนรถคู่กรณีก็ไถลพุ่งเข้าไปเฉียดหัวจ่ายน้ำมันภายในปั๊มจนพนักงานหน้าลานเติมน้ำมันต้องวิ่งหนีตายอลหม่าน จากนั้นรถคันดังกล่าวก็พุ่งไปชนเข้ากลางลำรถบรรทุกน้ำมันซึ่งจอดอยู่ในปั๊มอยู่แล้วอีกทอดหนึ่งจึงค่อยหยุดนิ่งสนิท
ด้าน นายสุรัต คงกระพันธ์ อายุ 37 ปี คนขับรถบรรทุกน้ำมัน กล่าวว่า นับเป็นโชคดีที่ก่อนเกิดเหตุตนขับรถน้ำมันความจุ 20,000 ลิตร ไปส่งให้ลูกค้าที่ปั๊มสาขาอื่นจนกระทั่งน้ำมันหมดถังแล้ว จึงขับรถมาจอดพักที่ปั๊มแห่งนี้ โดยขณะที่รถคู่กรณีทั้ง 2 คันเฉี่ยวชนกันจากบนถนนบริเวณปากทางเข้าปั๊ม ตนยืนอยู่ท้ายรถพอดี ถือเป็นโชคดีอีกชั้นที่คนขับรถบรรทุกสินค้าโลจิสติกส์ ยังพอมีสติควบคุมรถให้แล่นผ่านเข้ามาในลานบริการเติมน้ำมันได้แบบหวุดหวิดโดยที่ไม่พุ่งชนหัวจ่าย หนำซ้ำเมื่อไถลมาชนกับรถตนยังชนเข้ากับเหล็กกันกระแทกด้านข้างถังบรรทุกน้ำมัน ซึ่งมีความแข็งแรงจึงทำให้ถังบรรทุกน้ำมันไม่ได้รับความเสียหาย
อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวน ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับใคร เบื้องต้นจึงตรวจยึดใบอนุญาตขับขี่ของโชเฟอร์รถทุกคันเอาไว้ และได้ประสานให้ตัวแทนบริษัทประกันภัยของรถที่ประสบอุบัติเหตุทั้ง 3 คัน มาเจรจาชดใช้ค่าเสียหายในที่เกิดเหตุ จากนั้นจะรอให้อาการของผู้ได้รับบาดเจ็บทุเลา ก่อนเรียกทุกฝ่ายมาสอบปากคำเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.