การแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย เมื่อคืนวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา “ช้างศึก” ทีมชาติไทย บุกไปแพ้ “เศรษฐีน้ำมัน” ซาอุดิอาระเบีย 0-1 โดยมาพลาดเสียจุดโทษท้ายเกมใน น.84 และหลังจบเกม สารัช อยู่เย็น ถูก ฟู่ หมิง ผู้ตัดสินจากจีน แจกใบเหลืองที่สองเป็นใบแดง เหตุเข้าไปพยายามทักทวงคำตัดสิน หลังเกม “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย กว่าวว่า เราต้องขอแสดงความยินดีกับ ซาอุดิอาระเบีย ที่เป็นฝ่ายเอาชนะในเกมนี้ ซึ่งผมเองต้องขอชื่นชมผู้เล่นทุกคนที่เล่นได้ตามแท็กติกที่วางไว้ แต่เราไม่ได้จุดโทษซึ่งทุกคนคงจะเห็นว่าเพราะอะไร กลับกันเรามาเสียจุดโทษในช่วงท้ายเกม ซึ่งก็ถือเป็นความผิดพลาดของใครให้คิดเอาเอง อย่างไรก็ตามเรายังมีเกมกับญี่ปุ่น ที่เราจะต้องกลับไปเล่นในบ้านของเรา ซึ่งเราควรจะมองไปที่เกมหน้า เนื่องจากเราเองได้ซ้อมเกมไว้เจอกับ ญี่ปุ่น แล้ว เกียรติศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในการเล่นรอบ 12 ทีมสุดท้าย เรารู้ดีวาทุกทีมแข็งแกร่งอยู่แล้ว โดยเฉพาะการเจอกับตัวเต็งอย่าง ญี่ปุ่น ที่ถือว่าพวกเขาพลาดมาในเกมแรก ทั้งๆที่รูปเกมของญี่ปุ่นนั้น เหนือกว่า ยูเออี อย่างมาก และมีโอกาสที่จะตีเสมอ 2-2 จนถึงขั้นเอาชนะได้เลยด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามเราคงจะบอกไม่ได้ว่าจะใช้แผนใดรับมือกับพวกเขา แต่บอกได้เลยว่าทุกสิ่งที่เราซ้อมกันมานั้น ก็เพื่อ 2 เกมแรกของรอบ 12 ทีมสุดท้าย ขณะที่ กรณี “เจ้าตัง” สารัช อยู่เย็น โดนผู้ตัดสินแจกใบเหลืองที่สอง กลายเป็นใบแดง หลังจบเกมนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ก.ย. สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะดำเนินการส่งหนังสือประท้วงการทำหน้าที่ของฟู หมิง กรรมการชาวจีน ที่ตัดสินค้านสายตาแฟนบอลไทย และแฟนบอลทั่วโลก จากจังหวะสำคัญที่เห็นชัด คือปฎิเสธให้จุดโทษทีมไทยในนาที 20 จากจังหวะธีรศิลป์ แดงดา โดนผู้รักษาประตูซาอุดิอาระเบียรวบล้มในเขตโทษแต่กรรมการให้เป็นฟรีคิก รวมทั้งจังหวะที่ทีมไทยเสียจุดโทษในนาที 81 ทั้งที่ผู้เล่นซาอุดิอาระเบียเสียจังหวะครองบอลไปแล้ว และการเข้าแย่งบอลของ สารัช ไม่ใช่จังหวะจงใจเล่นอันตรายหรือขัดขวางการเล่นของคู่แข่ง นอกจากนี้ส.บอลไทยจะยื่นอุทธรณ์โทษใบเหลืองที่สองของ สารัช อยู่เย็น ด้วยโดยจะยื่นหนังสือไปยังสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) พร้อมหลักฐานเทปวีดีโอเพื่อให้พิจารณาโดยเร็ว