เมื่อเวลา 09.18 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมเฮอร์มิเทจ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายแพทย์สำเริง แหยงกระโทก อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุขในฐานะประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนรักษ์โคราช และนายธนัท เชี่ยวชาญอักษร กรรมการผู้มีอำนาจ บริษัท ธนัทเฮิร์บ พาณิชย์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ได้ร่วมทำพิธีบวงสรวงขอขมาเจ้าที่และจุดประทัดเอาฤกษ์เอาชัยจำนวน 1 หมื่นดอก จากนั้นได้ลงนามบันทึกความเข้าใจและความร่วมมือในวัตถุประสงค์ดำเนินการปลูกกัญชาตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ) ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ 2522 ฉบับที่ 7 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ 2562 อนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และวิจัยทางวิทยาศาสตร์และนำผลผลิตกัญชาบางส่วนไปใช้ในเชิงพาณิชย์ เชิงธุรกิจ เพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนและต้องเป็นไปตามระเบียบกฎเกณฑ์และประกาศของกระทรวงสาธารณสุข โดยกลุ่มวิสาหกิจ ฯ ดำเนินการขออนุญาตการปลูกกัญชาและบริษัท ธนัทเฮิรบ์ พาณิชย์ จำกัด ลงทุนปลูกกัญชาในพื้นที่โรงแรม ฯ เป็นโรงเรือนลักษณะกึ่งปิดขนาดความกว้าง 8 เมตร ความยาว 30 เมตร จำนวน 4 โรงเรือน และโรงเรือนอนุบาล 1 โรง และบำรุงรักษาจนได้กัญชาประมาณ 800 ต้น เพื่อนำไปผลิตใช้ในเชิงธุรกิจก็จะนำรายได้มาแบ่งตามสัดส่วน นพ.สำเริง ฯ เปิดเผยว่า ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี ทุกภาคส่วนได้ร่วมพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา ให้เป็นเมืองกระท่อม กัญชง กัญชา เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างกิจกรรมหลัก 5 ด้าน ดังนี้ 1.การแพทย์ จะมีคลินิกเอกชนสหวิชาชีพรักษาด้วยกัญชาทั้งแพทย์แผนไทย แพทย์พื้นบ้านและแพทย์แผนจีนให้บริการประชาชนทั้งในและต่างประเทศ 2.สาธารณสุข ส่งเสริมสุขภาพด้วยกัญชง กัญชา กระท่อม โดยสร้างสุขภาพให้แข็งแรงและการผ่อนคลาย 3.การท่องเที่ยว จัดเส้นทางท่องเที่ยวใช้กัญชาเป็นแรงดึงดูดเชื่อมต่อเขาใหญ่ ด่านเกวียน ปราสาทหินพิมาย สวนสัตว์ ท้องฟ้าจำลอง ฯลฯ เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศมาดูการปลูกกัญชา การแปรรูปและขั้นตอนการดำเนินงานต่างๆ 4.เศรษฐกิจ ให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการรวมเป็นวิสาหกิจชุมชน เพื่อปลูกกัญชง กัญชาส่งวัตถุดิบให้กรมการแพทย์แผนไทยหรือสถาบันการศึกษาหรือเอกชน นำไปผลิตสาร CBD ที่มี THC น้อยกว่า 0.29 % และ 5.การศึกษาวิจัยและพัฒนากัญชง กัญชา ต่อยอดการผลิตเครื่องดื่มผสมกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ขณะนี้มีการลักลอบใช้กัญชาใต้ดินรักษาโรคกว่า 1 ล้านราย ซึ่งมีราคาแพงและสารปนเปื้อนสูงรวมทั้งมีน้ำมันมะพร้าวเป็นส่วนผสมมากเกินไป รัฐบาลจึงได้ขับเคลื่อนและปลดล็อคผลผลิตของกัญชาที่ไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ประกอบด้วยเปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน ราก ใบที่ไม่มียอดหรือช่อดอกติดมาด้วย ฯลฯ จากการสำรวจพบชาวจีนต้องการรักษาโรคด้วยกัญชาและเชื่อมั่นในระบบดูแลสุขภาพของประเทศไทย จึงใช้กัญชาเป็นจุดเด่น จุดขาย สร้างแรงจูงใจทั้งนักท่องเที่ยวและผู้ที่แสวงหาการรักษาโรคด้วยกัญชาเข้ามาใช้บริการในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหรือเฮลท์ แอนด์ เวลเนสส์นำไปสู่การกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้มีความคึกคัก หลังจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง นพ.สำเริง กล่าว