วันที่ 28 ม.ค. 64 เวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา เกียกกาย คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร จัดประชุมเพื่อพิจารณาศึกษาสรรพคุณและผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งเกิดจากการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทต่างๆ ที่จำหน่ายในท้องตลาด รวมถึงแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภค โดยเชิญตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) คณบดีคณะการแพทย์แผนจีน มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย รวมถึงน.ส.พัชรศรี เบญจมาศ หรือกาละแมร์ พิธีกรชื่อดัง เข้ามาชี้แจงให้ข้อมูล                จากนั้นเวลา 12.30 น. น.ส.พัชรศรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังชี้แจงกมธ.ว่า ทางกมธ.เชิญตนมาให้ข้อมูลในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการ ถือว่าเป็นโอกาสดีที่ได้แสดงความคิดเห็นและหาทางออกร่วมกันในแง่การโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมควรจะทำอย่างไรดี เพราะตนเองก็ไม่เคยรู้เรื่องประกาศอย. แต่เมื่อเกิดเรื่องก็ได้ไปศึกษาว่าอะไรทำได้และทำไม่ได้บ้าง ปรากฏว่ามีรายละเอียดของกฎหมายมากจึงต้องมาหาทางออกให้กับผู้ประกอบการทุกคน ตอนนี้ต้องศึกษาข้อกฎหมายให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าเราไม่สามารถพูดในแง่ความรู้สึกของเราได้ เช่นถ้ามีคนทักว่าทำไมสวยขึ้น ทำไมตาสองชั้น ทำไมหน้าเรียวต่างๆนานา ก็คิดว่าเราสามารถพูดได้ตามประสบการณ์ตรงและความรู้สึกของเรา รวมถึงรวบรวมรีวิวประสบการณ์ตรงของลูกค้าที่มีตัวตนจริงว่ารับประทานแล้วรู้สึกอย่างไร ตนก็ไม่ทราบว่าพูดไม่ได้ ซึ่งมีอีกหลายเรื่องมากที่ตนไม่รู้ แต่วันนี้ก็ได้ทำความเข้าใจร่วมกันว่าสิ่งใดที่ทำได้บ้าง                 “เราเป็นผู้ประกอบการมือใหม่ ตั้งใจทำมาหากิน และทำผลิตภัณฑ์ที่ดีให้คน แต่ไม่ทราบกฎหมาย วันนี้จึงมาพบกมธ.และได้ความรู้มากขึ้น รวมถึงได้เสนอแนะการทำโครงการต่างๆ เช่น ถ้าต่อไปอย.จะอบรมผู้ประกอบการอาหารเสริมจะดีมาก เพราะหลายคนไม่รู้ ยินดีช่วยอย.และสคบ.ทุกอย่าง เพราะมีประสบการณ์ และไม่อยากให้ใครมาโดนเหมือนเราอีก ไม่อยากทำผิดซ้ำอีก รวมถึงประชาชนผู้บริโภคจะได้รู้ข้อกฎหมายต่างๆเหล่านี้ ส่วนเรื่องคดีความตั้งแต่มีหมายเรียกมายังไม่เคยได้รับโทรศัพท์ เมื่อได้หมายเรียกปุ๊บก็ให้ทนายความเป็นผู้จัดการและติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเวลา ซึ่งวันนี้ก็ได้บอกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วว่าติดภารกิจมาให้ข้อมูลกมธ. จึงขอเลื่อนการพบเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปก่อน ยืนยันว่าไม่ได้เพิกเฉย” น.ส.พัชรศรี กล่าว                เมื่อถามว่า ทำไมจึงเลือกมาชี้แจงต่อกมธ.แทนที่จะเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหมายเรียก น.ส.พัชรศรี กล่าวว่า  การที่มากมธ. เพราะอยากชี้แจงในส่วนของตนด้วย ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีทนายความพูดคุยอยู่ตลอดแล้ว เราเคารพกฎหมาย ถ้าตำรวจมีหมายเรียกมา เราก็มีทนายความเข้าไปประสานงานและติดต่ออยู่แล้ว                 เมื่อถามว่า กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 9 ก.พ. น.ส.พัชรศรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้                 เมื่อถามถึงประเด็นที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์จากกรณีที่มีการรีวิวว่าเมื่อรับประทานแล้วเป็นโควิด-19 ก็หาย น.ส.พัชรศรี กล่าวว่า กรณีนี้มีลูกค้าผู้หญิงคนหนึ่งรีวิวบอกเล่าเรื่องสามี เมื่ออ่านแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นจึงอยากรู้รายละเอียดและได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าตัวจริงๆ ที่เขามีตัวตนจริงๆ และเล่าเหตุการณ์ว่าเขาป่วยไม่สบาย และเมื่อรับประทานแล้วค่าต่างๆลดลงจนสามารถกลับบ้านได้ ซึ่งด้วยความตื่นเต้นดีใจทำให้ขาดความรอบคอบ และต้องการบอกเล่า                  เมื่อถามว่า จะยังคงเดินหน้าทำผลิตภัณฑ์ต่อหรือไม่ น.ส.พัชรศรี กล่าวว่า ตนเป็นแม่ค้าออนไลน์คนหนึ่งที่มีเจตนาที่ดีในการทำผลิตภัณฑ์ เลือกวัตถุดิบที่ดีทุกอย่าง เพราะกินเอง ขายเอง และรีวิวเอง และยังมีพนักงานอีกกว่า 100 ชีวิตที่จะต้องเราก็ทำต่อไป ครั้งนี้จะไปปรับปรุงองค์กรและทำทุกอย่างให้ดีขึ้น พัฒนาตนเอง ผลิตภัณฑ์ การบริการและการโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่อะไรที่ต้องปรับปรุงเราก็จะทำเต็มที่                ด้านนายนิติธร แก้วโต ทนายความ กล่าวว่า เรื่องหมายเรียกนั้น ยืนยันว่าจะไปตามหมายเรียกและคงไม่รอให้มีหมายเรียกครั้งที่ 2 เพราะจะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาก่อน โดยได้ประสานไว้หมดแล้ว แต่ขอเลื่อนไประยะเวลาหนึ่งเพื่อจัดคิว  เมื่อถามว่า ระหว่างคิวหมายเรียกของตำรวจกับการเชิญของกมธ.สาธารณสุขคิวไหนมาก่อน นายนิติธร กล่าวว่า หมายเรียกตำรวจมาก่อน แต่เราเลือกที่จะมาชี้แจงกมธ .เพราะมองว่าเวลาเราคุยกับตำรวจเราจะรู้และทราบข้อกล่าวหา แต่เราไม่รู้รายละเอียด แต่วันนี้ที่เราอาจจะรู้รายละเอียดได้เพราะกมธ.เชิญหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมา และเราจะได้รายละเอียดเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ด้วย เพื่อจะได้กำหนดแนวทางในการดำเนินคดีได้ถูก ส่วนเรื่องรับประทานแล้วหายป่วยจากโควิด-19 นั้นยืนยันไม่มีเรื่องการหลอกลวงแน่นอน แต่ขาดความรอบคอบในการศึกษาข้อกฎหมายนั้นน.ส.พัชรศรีก็ยอมรับในตรงนี้ และในส่วนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นที่มีคนไข้ที่บอกว่ากินแล้วหายจากโควิด-19 นั้นเราคงต้องไปนำลูกค้ารายนี้มาเป็นพยานเพื่อยืนยันข้อเท็จจริงที่เราพูดไปว่ามีเกิดขึ้นจริง