ราย 647 และ 658 ข้องใจให้ข้อมูลจริงหรือไม่ ย้ำยึดใบโนเวล ที่ออกโดยหมอ-พยาบาลจากรพ. ชี้บางรายมีการให้ข้อมูลพลิกไม่ได้ไปรร.บันยันทรี ให้พิสูจน์ดูจากใบโนเวล เมื่อวันที่ 28 ม.ค.64 ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกทม.กล่าวถึงปัญหาการให้ข้อมูลไทม์ไลน์ว่า ไทม์ไลน์การออกแต่ละครั้เง เมื่อเจอผู้ป่วย ไปรพ. ก็จะมีบุคลากรแพทย์มาซักประวัติ พื้นที่เสี่ยง จะเขียนโดยแพทย์และพยาบาล เรียกใบโนเวล ส่งมาให้สำนักอนามัยกทม. ถ้าตรวจสอบแล้วไม่ให้ข้อมูล ก็จะมีคณะกรรมการตรวจสอบ ว่าข้อมูลตัวไหนไม่ผิดกฎหมาย (ส่วนบุคคล) จะแจ้งให้ทราบ ซึ่งกรณีไทม์ไลน์กทม.ต้องทำเป็นกระบวนการออกมา สอบต่อจากใบโนเวล โดยสำนักอนามัยกทม.โดยเน้นขอให้ให้ข้อมูลเพื่อคุมการระบาด ซึ่งมีบางรายตอบ บางรายไม่ตอบ โดยจากที่ถามไปมีหลายรายที่ให้ข้อมูลครบ อย่างไรก็ตาม มีอุปสรรคให้การให้ข้อมูลไม่ตรงตามจริง เคสที่ 647 กับ 658 ประเด็นใบโนเวลไม่ค่อยทราบข้อมูล ขณะมีการอัพเดตของผู้ป่วยแถลงเองกับที่ให้ข้อมูลไม่ได้ไปไหน เป็นอุปสรรค จะต้องพิสูจน์ว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ ซึ่งจะคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กับทางตำรวจ จะจริงอย่างไร 2.ไม่ให้ข้อมูล มีหลายราย เป็นอุปสรรคใหญ่ แต่กทม.ต้องขอบคุณหลายรายที่ให้ข้อมูล กรณีผู้ป่วยให้ข้อมลกับทีมสอบสวนแต่สงวนสิทธิ์ไม่นำเสนอ ซึงมีกรณีประเด็นถ้าเป็นที่สาธารณะไม่ได้ แต่บางเรื่องส่วนตัวต้องสงวนสิทธิ์ ไม่ใช่ที่สาธารณะ เช่น คอนโด บ้าน “ทั้งนี้ 4 รายที่ว่ามีข้อมูลไม่ให้ข้อมูล พบยัง มี 2 รายที่ยังสงสัยจริงหรือไม่ กำลังใช้กระบวนการสอบสวนอยู่ หนักใจจะเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ กรณีรายที่ว่าให้ข้อมูลกับกทม.แล้ว แต่ที่กทม.ออกไม่อัพเดตเคสรายที่ 658 ยืนยันใบโนเวล ยืนยันชัดเจนไปจริง แต่เมื่อวานแถลงว่าไม่ได้ไป แต่เพื่อนไป ต้องสรุปว่าวันแรกที่สอบว่าไป มีรายละเอียดเป็นข้อเท็จจริงอย่างไร มีข้อมูลเป็นเอกสาร คนไข้มาขอดูได้ ยืนยันใบโนเวล เขียนชัดเจนไปโรงแรมบันยันทรี วันที่ 9 ม.ค.” โฆษกกทม.กล่าวว่า ปัญหาในการสอบสวน ข้อมูลที่ไม่แน่ใจ การสอบสวนจะไม่ใช่แค่กล้องวงจรปิด ยังต้องประสานตำรวจติดตามข้อมูลอย่างอื่นต่อไป ทั้งเรื่องสัญญาณต่างๆ จะไปโผลที่ไหน โดย 2 รายที่สงสัย กำลังดำเนินการอยู่