"ธรรมนัส" ถกคณะกรรมการพัฒนาที่ดิน ครั้งที่ 1/2564 เร่งแก้ไขความเดือดร้อนเกษตรกร เรื่องการจำแนกที่ดินหรือพื้นที่ทำกินทับซ้อน เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาที่ดิน ครั้งที่ 1/2564 ณ ห้องประชุม 1214 กรมพัฒนาที่ดิน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจราชการตามจังหวัดต่างๆ พบว่า เกษตรกรยังคงได้รับความเดือดร้อนจากการจำแนกที่ดินหรือพื้นที่ทำกินเป็นที่ดินทับซ้อน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมพัฒนาที่ดิน จึงได้ดำเนินการสำรวจจำแนกประเภทที่ดิน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2525 (แก้ไขเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2527) ให้มีการดำเนินการ พื้นที่ป่าไม้ถาวร ที่ยังไม่ได้ประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับกรมที่ดิน กรมแผนที่ทหาร และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการสำรวจและจำแนกประเภทที่ดินอย่างละเอียด ให้เสร็จภายใน พ.ศ.2530 ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการพัฒนาที่ดิน ส่วนพื้นที่ที่เหมาะสมกับการเกษตร แต่ยังมีสภาพเป็นป่าไม้อยู่ ให้รักษาไว้เป็นป่าต่อไป ไม่ควรจำแนกออกเป็นพื้นที่ทำกิน และพื้นที่ที่จำแนกเป็นป่า ให้กรมป่าไม้ดำเนินการประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ตามหลักเกณฑ์ที่กรมป่าไม้ปฏิบัติต่อไป ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า ในส่วนของพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งมีราษฎรบุกรุกรวมแล้ว ประมาณ 30 ล้านไร่ ได้ให้จัดทำโครงการจำแนกประเภทที่ดิน (Land Reclassification) ในพื้นที่ 30 ล้านไร่ ให้เสร็จภายในสิ้นแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2534) โดยให้เป็นโครงการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกรมที่ดิน กรมแผนที่ทหาร และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการพัฒนาที่ดิน ส่วนพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมแก่การเกษตรกรรม ให้กรมป่าไม้ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำโครงการหมู่บ้านป่าไม้ และดำเนินการปลูกป่าต่อไป และสำหรับพื้นที่ที่เหมาะสมแก่การเกษตร ให้กรมป่าไม้ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จัดทำโครงการใช้ประโยชน์ที่ดินทำกิน โดยให้ดำเนินการสำรวจความเหมาะสมของดินเป็นหลักเกณฑ์ในการจัดทำโครงการด้วย ทั้งนี้ มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2511 ข้อ 1. ซึ่งกำหนดว่า “บริเวณป่าที่คณะรัฐมนตรี มีมติกำหนดไว้เป็นที่จะรักษาไว้เป็นสมบัติของชาติ หากทบวงการเมืองใด ประสงค์จะเข้าใช้ประโยชน์โดยไม่ตัดพื้นที่ที่ขอใช้ประโยชน์ออกจากเขตป่าที่ได้จำแนกไว้แล้วให้เป็นอำนาจของ กระทรวงเกษตรฯ พิจารณาอนุมัติได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา” ซึ่งเป็นมติที่เก่า ไม่ทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน ทางรมช.เกษตรฯ จึงนำยื่นขอยกเลิก ในประชุมในวันที่ 5 กัมภาพันธ์ 2564 นี้