ความเคลื่อนไหว"ช้างศึก" ทีมฟุตบอลชาติไทย จะลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบ 12 ทีมสุดท้ายเอเชีย นัดที่ 2 พบ "ซามูไรบลูส์" ญี่ปุ่น วันที่ 6 ก.ย. เวลา 19.15 น. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ช่อง 7 สี ถ่ายทอดสด "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งเคยไปทำงานวงการลูกหนังที่ญี่ปุ่น มาเป็นเวลานาน กล่าวว่า ตนมีข้อมูลของญี่ปุ่นอย่างมากพออยู่แล้ว แม้จะไม่ได้ส่งทีมงานไปชมเกมนัดแรกของ ทีมซามูไร ที่เปิดบ้านพบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) ก็ตาม แน่นอนว่า เป็นงานที่ยากมากของทีมชาติไทย เพราะญี่ปุ่นชุดนี้ ครบเครื่อง และแกร่งกว่า ซาอุดีอาระเบีย ที่ไทยเจอมาในนัดแรกแน่นอน "ญี่ปุ่น เป็นทีมที่เล่นได้หลากหลาย ทั้งการคุมจังหวะ รูปแบบของเกม รวมทั้งการฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของคู่ต่อสู้ ที่ทำได้เฉียบคมมาก" โค้ชเฮง กล่าว ประธานพัฒนาเทคนิคบอลไทย กล่าวต่อไปว่า ยอมรับว่า การที่ไทยจะเอาชนะญี่ปุ่น เป็นเรื่องยาก แต่ผลเสมอ เป็นไปได้ เหมือนกับที่ สิงคโปร์ เคยบุกยันเสมอ ญี่ปุ่น มาแล้ว ในฟุตบอลโลก รอบที่ผ่านมา เมื่อปีที่แล้ว "สิ่งที่ไทยจะต้องเจอคือเกมเพรสซิ่ง การกดดันของ ญี่ปุ่น ซึ่งเราต้องแก้ให้ได้ ขณะเดียวกัน เมื่อคู่แข่งได้บอล ก็ต้องเพรสซิ่ง สร้างความกดดันกลับไปด้วย นอกจากนี้ ต้องไม่ลงรับต่ำเด็ดขาด ต้องเดินหน้าเข้าบีบพื้นที่ เราต้องสู้แบบไม่กลัวญี่ปุ่น จึงจะมีโอกาสคว้าแต้ม" นายวิทยา ทิ้งท้าย ขณะที่ ทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ได้รายงานตัวเพื่อฝึกซ้อมกับ "โค้ชจุ่น" อนุรักษ์ ศรีเกิด หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมคนใหม่ เมื่อ 1 ก.ย. ที่สโมสรราชพฤกษ์ วิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 1 ก.ย. เพื่อเตรียมแข่งขันฟุตบอล 19 ปี ชิงแชมป์อาเซียน ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม 11-24 ก.ย. โค้ชจุ่น กล่าวว่า พล.ต.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ให้นโยบายเน้นเรื่องวินัยเป็นหลัก ทั้งในและนอกสนาม จากนี้ต้องเร่งปรับทัศนคติทีมชุดนี้ เน้นเข้มเรื่องกฎระเบียบ วินัย และความตรงต่อเวลา ใครไม่ทำตามระเบียบ ก็จะไม่ได้ร่วมทีม ซึ่งวันนี้ "โก้" สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ ไม่มารายงานตัวตรงต่อเวลาก็คงจะต้องพูดคุยกัน