วันที่ 18 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี นายพีระ กาญจนพงศ์ ผอ.ปปส.ภ.8 และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด และจับกุมผู้ต้องหาสำคัญพร้อมอาวุธสงคราม และขยายผลยึดทรัพย์รถยนต์ บ้าน ที่ดิน มูลค่ากว่า 25 ล้านบาท โดย พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า คดีแรก สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ม.ค.64 พ.ต.อ.สุทธิ์ นิติอัครพงศ์ ผกก.สภ.พนม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เข้าจับกุมตัวนายอนุรักษ์ สัมพันธ์ ซึ่งเป็นบุคลเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังติดตามอยู่ โดยจับได้ขณะหลบซ่อนตัวภายในสวนยางพารา หมู่ที่ 5 ต.ต้นยวน อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลางอาวุธปืนยาวขนาด .22 จำนวนหนึ่งกระบอก จากนั้นได้ทำการขยายผล จับกุมตัว น.ส.จิราพร สัมพันธ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 356 หมู่ที่ 5 ต.ต้นยวน อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานสาว ตรวจค้นภายในบ้านพบยาบ้าจำนวน 5 เม็ด อยู่ในกระเป๋ากางเกง ซึ่งในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นได้มีพนักงานของบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง ได้ขับรถเข้ามาส่งสินค้าเป็นกล่องพัสดุ เจ้าหน้าที่จึงให้ น.ส.จิราพร ซึ่งมีชื่อเป็นผู้รับทำการเปิดกล่องพบเป็นยาไอซ์จำนวน 2 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวน น.ส.จิราพร อ้างว่า ยาไอซ์จำนวนดังกล่าวได้รับมาจากนายอัครเดช หรือโก้ สุทธกุล อายุ 37 ปีอยู่บ้านเลขที่ 55 ซ.อุดมสุข2 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กทม. ซึ่งมีภรรยาอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีฐานะดีและประกอบธุระกิจรับจำนำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จึงได้ดำเนินการขยายผลจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการอีกจำนวน 2 ราย คือ นายเอกชัย เกตุการณ์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 170 หมู่ที่2 ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี และน.ส.สุนันทรา เพ็ชร์ศรี อยู่บ้าน้ลขที่ 140/265 หมู่ที่ 1 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 153/219 หมู่ที่ 1 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลางยาไอซ์จำนวน 6 กรัม ปืนพกขนาด.45 จำนวน 1 กระบอก และทำการขยายผลตรวจยึดทรัพย์รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ฉโนดที่ดิน และบ้านจัดสรร และทรัพย์สินอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 25 ล้านบาท ก่อนนำตัวทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมาย คดีที่สอง สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2562 ได้มีคนร้ายร่วมกันก่อเหตุยิง นายธีรวัฒน์ ทีปะปาล ได้รับบาดเจ็บ โดยคนร้ายได้ใช้อาวุธสงครามในการก่อเหตุ ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.พนม ได้ขอศาลออกหมายจับนายชัยชยันต์ นวนมุสิก พร้อมพวก ตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 4/2564 ลงวันที่ 13 มกราคม 2564 ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในความครอบครอง และจากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหายังหนีหมายจับของ สภ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช อีกจำนวน 2 หมาย โดยสามารถจับกุมตัวนายชัยชยันต์ หรือเค นวนมุกสิก พร้อมด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมด้วยเครื่องกระสุนจำนวน 26 นัด ในพื้นที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี และนำไปตรวจค้นได้อาวุธปืนสงคราม(นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้) จำนวน 2 กระบอก คือ อาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก และ อาวุธปืน เอ็ม 4 คาร์บิน จำนวน 1 กระบอก พร้อมด้วยเครื่องกระสุนปืนจำนวน 94 นัด ในพื้นที่ สภ.คีรีรัฐนิคม สำหรับตัวนายชัยชยันต์ เป็นผู้ต้องหาที่เป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยที่ผ่านมาเคยติดคุก 12 ปี ในข้อหาฆ่าคนตายในพื้นที่ สภ.กาญจนดิษฐ์ เมื่อออกจากคุกมา ก็ก่อเหตุในพื้นที่นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี