กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 29.95-30.25 ต่อดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 30.04 ต่อดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 29.95-30.19 โดยเงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ ขณะที่นักลงทุนยังคงขายทำกำไรในสกุลเงินอื่นๆ แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯเริ่มทรงตัว ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 670 ล้านบาท แต่ขายพันธบัตร 4,500 ล้านบาท ทั้งนี้มองว่า ตลาดจะให้ความสนใจกับพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของผู้นำสหรัฐฯในวันที่ 20 ม.ค.นี้ ซึ่งหลายฝ่ายเพิ่มความระมัดระวังเพื่อป้องกันเหตุการณ์ปั่นป่วนวุ่นวาย ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าประธานเฟดยังคงมุ่งเน้นสื่อสารกับตลาดถึงการคงไว้ซึ่งนโยบายผ่อนคลายมากเป็นพิเศษและให้คำมั่นว่าเฟดจะส่งสัญญาณอย่างชัดเจนหากจะปรับเปลี่ยนมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจเมื่อการจ้างงานฟื้นตัวขึ้นอย่างมั่นคงในระยะข้างหน้า โดยบทเรียนในอดีตบ่งชี้ถึงความเสี่ยงจากการถอนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วเกินไป ในปีนี้กรุงศรีเชื่อว่าแนวทางการสื่อสารของเฟดจะมีความสำคัญสูงสุดสำหรับการเคลื่อนไหวในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนในระยะนี้ เรามองว่าค่าเงินดอลลาร์จะย่ำฐานในกรอบ โดยตลาดจะติดตามท่าทีของผู้นำสหรัฐฯในช่วงแรกของการรับตำแหน่งซึ่งคาดว่าจะให้น้ำหนักไปที่การเร่งกระจายวัคซีนและเยียวยาผลกระทบจากโรคระบาดเป็นสำคัญ ภาวะเช่นนี้จะยังคงเอื้อต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและกดดันค่าเงินดอลลาร์หลังจากการปรับฐานช่วงสั้น สำหรับปัจจัยในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่จะปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสำหรับปีนี้ที่เคยประเมินไว้ว่าจะขยายตัว 3.2% หลังการระบาดระลอกใหม่ในประเทศ โดยความรุนแรงของผลกระทบขึ้นอยู่กับความเข้มข้นและความสำเร็จของมาตรการควบคุมโรค อย่างไรก็ดี ธปท.กล่าวว่าเศรษฐกิจถูกกระทบน้อยกว่ารอบแรก ส่วนการส่งออกมีแนวโน้มดีขึ้นตามเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า กรุงศรีคาดว่าหากสถานการณ์ไม่เลวร้ายลงอย่างมีนัยสำคัญ ทางการจะตรึงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% และใช้วิธีกระจายสภาพคล่องอย่างตรงจุดต่อไป