บิ๊กอู๊ด แถลงผลระดมกวาดล้างยาเสพติด วันที่ 18 มกราคม 2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น., พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น., พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.น. และตำรวจบก.สปพ. แถลงผลการจับกุมยาเสพติด 5 คดี พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ได้จับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติดได้จำนวน 8 คน ส่วนหนึ่งเป็นผู้ค้ารายใหญ่ โดยเฉพาะเฮโรอีน และไอซ์ ได้นำมาจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านมาทางภาคอีสาน สามารถจับกุมได้ขณะพยายามนำเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่จ.ปทุมธานี และจ.นนทบุรี ส่วนการจับกุมเคตามีนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณี “เคนมผง” หรือไม่นั้น พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า กลุ่มนี้เป็นพวกนำวัตถุดิบเคตามีนมาจำหน่ายในกรุงเทพฯ ส่วนจะเกี่ยวพันในเหตุพื้นที่สน.วัดพระยาไกร หรือเหตุที่เกิดขึ้นหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนการจับกุมนายอมรเทพ เป็นการจับกุมตามหมายของศาลอาญาในข้อหาพยายามฆ่าและอาวุธปืน สืบเนื่องจากมีการกระทำความผิดเมื่อเร็วๆ นี้และหลบหนีไป จากการรวบรวมพยานหลักฐานเชื่อว่าเป็นผู้จำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่สน.วัดพระยาไกร ทั้งนี้ไม่ทราบว่าเป็นคนผสมยาเสพติดหรือไม่ แต่ที่ทราบผู้เสพที่เสียชีวิตส่วนหนึ่งได้ยาเสพติดมาจากเขา ซึ่งพบพยานหลักฐานว่ามีการจำหน่ายยาเสพติดให้กับผู้เสพ 1 จุด ทั้งนี้ต้องขอรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยผู้ต้องหาให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี มีการรับสารภาพในคดีพยายามฆ่า โดยขัดแย้งกันในเรื่องการจำหน่ายยาเสพติด และให้การภาคเสธในคดียาเสพติดว่าได้จำหน่ายยาเสพติด แต่ไม่ได้ให้การลึกลงไปในรายละเอียดว่ายาเสพติดที่จำหน่ายเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งต้องนำของกลางไปตรวจพิสูจน์ ทั้งนี้นายอมรเทพได้พ้นโทษในคดียาเสพติดเมื่อปี 2560 และเชื่อว่ามีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดต่อเนื่องมาโดยตลอด พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า จากการพบของกลางยาเสพติดในหลายพื้นที่ พบว่ามียาเสพติดหลายประเภท ซึ่งผู้เสพต่างคนก็นำยาเสพติดมาเอง ทุกเบาะแสได้นำมาสอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐาน เช่น ที่สายไหมและจรเข้น้อยได้ให้การว่าซื้อมาจากจ.ปทุมธานี ส่วนของกลางต้องรอการตรวจพิสูจน์ เช่นเดียวกับเหตุการเสียชีวิตในพื้นที่สน.บางบอน พบว่ามีการใช้ยาเสพติดลักษณะเดียวกัน แต่ยังไม่ทราบว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง อยู่ระหว่างรอผลตรวจอย่างละเอียด ปัจจุบันยอดผู้เสียชีวิตจากการเสพเคนมผง จำนวน 10 คน ยังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 4 คน อยู่ใน ICU 2 คน คดีแรกจากการสืบสวนทราบว่ามีกลุ่มเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดโดยมีการขนส่งยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้านแล้วนำมาจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าย่านกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยกลุ่มขบวนการดังกล่าวจะนำยาเสพติดไปจำหน่ายให้กับลูกค้าที่บริเวณย่านคลองหนึ่งรังสิต-นครนายก และนำมากระจายให้กับลูกค้าในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ต่อมา 16 ม.ค.64 เวลาประมาณ 16.30 น. ตำรวจกก.สายตรวจ บก.สปพ. ได้จับกุมนายอนันต์ คร่อมกระโทก อายุ 56 ปี พร้อมพวกรวม 3 คน บริเวณหน้าตลาดสะพานแดงซอยรังสิต-นครนครนายก 8 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และสถานีขนส่งหมอชิต พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ไอซ์) จำนวน 30 กิโลกรัม, รถยนต์ยี่ห้อ BMW จำนวน 1 คัน, เงินสดจำนวน 208,500 บาท, บัตรเอทีเอ็มจำนวน 6 ใบ, สร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 7 บาท ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครอบ เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยผิดกฎหมาย คดีที่ 2 หลังจับกุมนายอนันต์ ทำให้ได้ข้อมูลว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดบริเวณย่านวัดโบสถ์ดอนพรหม ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี สามารถจับกุมนายพงศธร แจ่มใส อายุ 36 ปี ได้บริเวณภายในซ.บางกร่าง 16/4 ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) จำนวน 12 ก้อน น้ำหนัก 4.5 กิโลกรัม และรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้ในครอบครอบเพื่อจำหน่าย และพยายามจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย คดีที่ 3 เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าที่บ้านเลขที่ 18/127 ซ.ลาดปลาเค้า 83 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขนกรุงเทพฯ มีการมั่วสุมเสพยาเสพติดและลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับวัยรุ่นทั่วไป จึงได้ดำเนินการขอหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นบ้านเลขหลังดังกล่าวในวันที่ 14 ม.ค. 64 พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 355 เม็ด ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) น้ำหนัก 271.58 กรัม, ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) จำนวน 49 เม็ด, ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) ชนิดผงสีขาวน้ำหนักประมาณ 15.02 กรัม, ยาเคตามีนหรือยาคีตามีนชนิดผงน้ำหนัก 11.11 กรัม, อาวุธปืนลูกโม่ บีบีกันดัดแปลง 1 กระบอก, เครื่องกระสุนปืนขนาด.38 จำนวน 4 นัด รถยนต์ 1 คัน, รถจักรยานยนต์ 3 คัน และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และได้จับกุมนายณัฐวุฒิ หรือนัท มงคลจิระนันท์ อายุ 38 ปี พร้อมพวกรวม 3 คน ในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์และยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครอบเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอีหรือเอ็กซ์ตาซีหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครอบโดยผิดกฎหมาย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครอบเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอีหรือเอ็กซ์ตาซีหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครอบเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (ยาเคตามีนหรือยาคีตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยผิดกฎหมาย ทั้ง 3 คน ให้การรับสารภาพว่ายาเสพติดทั้งหมดเป็นของพวกตนเองจริง คดีที่ 4 จากการจับกุมนายณัฐวุฒิ พร้อมพวกรวม ทำให้ทราบว่าผู้ต้องหาได้แบ่งยาเคตามีนหรือยาคีตามีนมาจาก น.ส.เขมจิรา หรือก้อย มังกรแก้ว อายุ 49 ปี ในวันเดียวกันได้จับกุมน.ส.เขมจิรา ได้บริเวณปากซอยวิภาวดีรังสิต 36 แยก 3-4 แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพฯ พร้อมของกลางยาเคตามีนหรือยาคีตามีนชนิดผงสีขาวน้ำหนักประมาณ 30.29 กรัม ในข้อหามีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (ยาเคตามีนหรือยาคีตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย คดีที่ 5 กรณีเมื่อวันที่ 10 ม.ค. 64 เวลาประมาณ 14.50 น. ตำรวจสน.วัดพระยาไกรได้รับแจ้งว่ามีหญิงสาวเสียชีวิตในบ้านเช่าเลขที่ 922/29 ซ.เจริญราษฎร์ 7 แยก 4 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบศพน.ส.พาณิภัค อายุ 21 ปี และพบนายทัขชัย อายุ 23 ปี นอนหมดสติอยู่ภายในห้องเช่าเดียวกัน ทราบภายหลังว่าทั้ง 2 เป็นแฟนกัน จากการสอบถามนายทัชชัย ทราบว่าในวันที่ 9 ม.ค.64 ก่อนเกิดเหตุนายทัชชัย ได้ติดต่อซื้อยาเคนมผงมาจากน.ส.กุลนที และนายอมรเทพ มาสูดดมกันจนหมดสติไป ตำรวจจึงได้ติดตามตัวนายอมรเทพ เฉลิมวัฒน์ อายุ 33 ปี โดยตำรวจกก.สส.บก.น.5 ได้จับกุมตัวนายอมรเทพอายุ 33 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 63/2564 ลงวันที่ 15 ม.ค. 64 บริเวณห้องพักไม่มีเลขที่หมู่บ้านใหม่สุขเจริญ ม.13 ต.วังพิกุล อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 17 ม.ค.64 เวลาประมาณ 14.30 น. จากการสอบถามพบว่าเมื่อวันที่ 10 มกราคม 64 เวลา 22.30 น. นายอมรเทพได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงน.ส.นภิสาได้รับบาดเจ็บสาหัส สอบถามเบื้องต้นรับว่าก่อเหตุยิงน.ส.นภิสาจริง แจ้งข้อหาพยายามฆ่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตยิงปืน ซึ่งใช้ดินปืนโดยไม่ใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านฯ และพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านฯ จากนั้นได้นำส่งพงส. สน. พหลโยธิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในส่วนของคดียาเคนมผงจะทำการสืบสวนหาตัวผู้เกี่ยวข้องต่อไป