เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายสิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง  ทำหน้าที่ประธานในการประชุม ทั้งนี้ที่ประชุมได้พิจารณากระทู้ถามสด โดยนพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.ถามเรื่องวัคซีนโควิดที่ขณะนี้หลายประเทศฉีดแล้วมีผลข้างเคียง บบางรายถึงกับเสียชีวิตว่า ขณะนี้ประชาชนกลัวเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน อาทิ วัคซีนของบริษัท ไฟเซอร์ที่ยังไม่รับประกันเรื่องความปลอดภัย แม้มีประสิทธิ ภาพดี ส่วนวัคซีนจีน แม้จะมีความปลอดภัย แต่มีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพ เพราะเป็นการผลิตวัคซีนแบบเก่า จากไวรัสที่ตายแล้ว ดังนั้นในช่วงก่อนที่วัคซีน 200,000 โดสแรกที่จะมาถึงประเทศไทยในเดือนก.พ.นี้ จะมีแนวทางสร้างความมั่นใจกับประชาชนอย่างไร ในเรื่องการควบคุมโรคระบาด โดยเฉพาะที่จ.สมุทรสาคร กทม. ที่มีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ชี้แจงว่า รัฐบาลจะจัดหาวัคซีนที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพให้ประชาชนได้อย่างทั่วถึง  โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย วัคซีนของบริษัทซิโนแวค ไบโอแทคจากประเทศจีน ที่จะนำมาฉีดให้คนไทยนั้น มีความปลอดภัยสูง แม้จะมีค่ากลางที่ประมาณ 50 %  ที่สามารถป้องกันอาการป่วย และรักษาผู้ที่ติดเชื้อซึ่งแสดงอาการได้ เช่นเดียวกับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดที่ผ่านการทดสอบแล้วเช่นเดียวกัน วัคซีนทั้ง 2 บริษัท จะกระจายฉีดให้ประชาชนตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการกระจายวัคซีนกำหนด โดยวัคซีน 2 แสนโดสแรก จะฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงใน 5 จังหวัดควบคุมสูงสุดได้แก่ ผู้มีอายุเกิน 60 ปี ผู้มีโรคประจำตัว บุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงผู้มีความเสี่ยงต้องทำงานสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ จากนั้นอีก 8 แสนโดสต่อมา จะได้รับเดือนมี.ค. ฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงเดิม ในพื้นที่นอก 5จังหวัดควบคุม และคาดว่าเดือนมิ.ย.-ก.ค.จะฉีดให้ประชาชนทั่วไปได้