นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยชี้แจงนโยบายกับผู้ว่า ราชการจังหวัดทั่วประเทศ ผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกล(Video Conference) เกี่ยวกับแนวทางการขอรับการสนับสนุนงบประมาณกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปี 2564 ที่จะจัดสรรเงินให้ 2,400 ล้านบาทเพื่อดำเนินโครงการภายใต้กลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานรากที่มุ่งส่งเสริมให้ชุมชนทั่วประเทศนำเทคโนโลยีพลังงานไปใช้ในการสร้างงาน สร้างรายได้ โดยคาดว่าจะเปิดรับข้อเสนอโครงการเข้าระบบภายใน 31 มีนาคม 2564 โดยกองทุนฯจะประกาศเกณฑ์รายละเอียดต่อไป สำหรับโครงการที่ดำเนินการ 3 กลุ่มใหญ่ได้แก่ 1.สถานีพลังงานชุมชน เป็นการส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานภายใต้แนวคิด ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ โดยสามารถขอรับการสนับสนุนเทคโนโลยีเดี่ยว หรือ หลายเทคโนโลยีที่ประกอบกันได้แก่ เทคโนโลยีระบบ สูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์แบบเคลื่อนที่,เตาชีวมวลประสิทธิภาพสูง,ชุดครอบหัวเตาแก๊สประสิทธิภาพสูง, ระบบอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์, ระบบผลิตแก๊สชีวภาพจากของเสีย เป็นต้น 2.ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับบ่อบาดาล โซลาร์เซลล์ขนาด 2.5 กิโลวัตต์ และถังพักน้ำขนาดบรรจุ 20 ลบ.ม. 3.การผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ สำหรับพื้นที่ที่ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง/ไม่มีไฟฟ้า (off Grid) ได้แก่ บ้านอยู่อาศัย กลุ่มชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และโรงเรียนในสังกัดของรัฐบาล โดยกรอบวงเงิน 2,400 ล้านบาทจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกให้แก่จังหวัดๆละ 25 ล้านบาท รวม 76 จังหวัด รวม 1,900 ล้านบาท ส่วนกรอบวงเงินที่เหลือ 500 ล้านบาท จะใช้เป็นงบกลางสำหรับรองรับโครงการระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร (บ่อบาดาล) ที่เกินกรอบวงเงินของจังหวัด ทั้งนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ส่วนราชการภูมิภาค และส่วนราชการส่วนกลางที่มีที่ตั้งในจังหวัด สามารถยื่นขอรับการสนับสนุนกับทางจังหวัดได้ โดยจะมีคณะกรรมการบริหารจังหวัด แบบบูรณาการ (กบจ.) เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบกลั่นกรองเรียงลำดับความสำคัญก่อนที่จะให้ อปท. ส่วนราชการภูมิภาค หรือส่วนราชการส่วนกลางที่มีที่ตั้งในจังหวัดยื่นข้อเสนอเข้าระบบให้กับกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ทั้งนี้ จะได้มีการกำชับให้หน่วยงานจัดทำระบบตรวจสอบ ติดตาม ประเมินผลโครงการ โดยเฉพาะการให้ความสำคัญเรื่องความพร้อมในการบำรุงรักษา ประชาชนจะต้องใช้งานได้จริง นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กองทุนอนุรักษ์ฯได้วางกรอบวงเงินงบประมาณปี 2564 6,500 ล้านบาท แบ่งเงินสนับสนุนแบ่งเป็น 7 กลุ่มงานย่อยได้แก่ กลุ่มงานตามกฎหมาย 200 ล้านบาท,กลุ่มงานสนับสนุนนโยบายอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน 500 ล้านบาท,กลุ่มงานศึกษา ค้นคว้าวิจัย นวัตกรรม และสาธิตต้นแบบ วงเงินสนับสนุน 355 ล้านบาท,กลุ่มงานสื่อสาร และข้อมูล ข่าวสาร วงเงินสนับสนุน 200 ล้านบาท,กลุ่มงานพัฒนาบุคลากร 450 ล้านบาท,กลุ่มงานส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม อาคาร บ้านอยู่อาศัย ภาคขนส่ง ธุรกิจฟาร์มเกษตรสมัยใหม่ และพื้นที่พิเศษ 2,200 ล้านบาท และกลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก 2,400 ล้านบาท ส่วนแผนบริหารจัดการโดยสำนักงานกองทุนฯ อยู่ที่ 195 ล้านบาท