นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า กระทรวงเกษตรฯได้เล็งเห็นถึงผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต่อกลุ่มเกษตรกร ชาวประมง และผู้ประกอบการรายย่อยของไทย โดยพบว่าภาวะเศรษฐกิจการเกษตรปี 2563 หดตัวร้อยละ 3.3 เมื่อเทียบกับปี 2562 ทางกระทรวงฯ จึงมีการผลักดันนโยบายต่างๆ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอดรับกับทิศทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อาทิ นโยบาย "การตลาดนำการผลิต" โดยส่งเสริมให้เกษตรกรวางแผนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต ควบคู่ไปกับการส่งเสริมช่องทางการขายรูปแบบดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของภาครัฐอย่าง DGTFarm.com และได้รับความร่วมมืออย่างต่อเนื่องจากพันธมิตรในภาคเอกชน อย่าง แกร็บ ประเทศไทย สานต่อโครงการ "ตลาดสดคนไทย (Thai Fresh Market)" เพื่อร่วมกันส่งเสริมการกระจายสินค้าทางการเกษตรและประมง สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยให้มีรายได้เพิ่มขึ้นผ่านการขยายช่องทางการตลาดผ่านบริการ แกร็บมาร์ท (GrabMart) ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปตามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และแกร็บ ประเทศไทย ตามยุทธศาสตร์การตลาดของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวมีร้านค้าเข้าร่วมหลายร้อยร้านค้าจาก 7 จังหวัดทั่วประเทศ อาทิ ผลผลิตทางการเกษตรจากตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดมหานาค ตลาดยิ่งเจริญ โดยจำแนกสินค้าทั้งหมดออกเป็น 7 ประเภท ได้แก่ อาหารทะเล เนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ ข้าว เบเกอรี่ ดอกไม้ และตลาดสด นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการยังสามารถเลือกซื้อ "กระเช้าขอบคุณ" ได้จาก 23 ร้านค้า ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 มกราคม 2564
นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด แกร็บ ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า แกร็บ ในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลชั้นนำ มีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่คนไทย เราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สานต่อความร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อช่วยสนับสนุนภาคการเกษตรและการประมง พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้ก้าวข้ามผ่านวิกฤต เดินหน้าเข้าสู่ยุคธุรกิจดิจิทัลผ่านบริการ ตลาด Thai Fresh Marketบนแกร็บมาร์ท (GrabMart) เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเพิ่มช่องทางการตลาด และเชื่อมโยงการเข้าถึงผู้บริโภคที่หลากหลายผ่านแพลตฟอร์มของแกร็บ (Grab) จะช่วยส่งเสริมอาชีพและรายได้ให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยทั่วทั้งประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร. เก่งการ เหล่าวิโรจนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า แกร็บ มีความยินดีที่ได้สนับสนุนนโยบายของภาครัฐมาอย่างต่อเนื่อง โดยบริการ ตลาดThai Fresh Marketบนแกร็บมาร์ท (GrabMart) จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในการส่งเสริมผลผลิตจากผู้ประกอบการรายย่อยในรูปแบบดิจิทัล ขยายช่องทางการตลาดออนไลน์ พร้อมการบริการที่สะดวกและปลอดภัย เพื่อสอดรับกับแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคในยุค New Normal เรามุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแพลตฟอร์มของแกร็บจะช่วยสนับสนุนช่องทางรายได้ให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยและฟื้นฟูความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวมีร้านค้าเข้าร่วมหลายร้อยร้านค้าจาก 7 จังหวัดทั่วประเทศ อาทิ ผลผลิตทางการเกษตรจากตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดมหานาค ตลาดยิ่งเจริญ โดยจำแนกสินค้าทั้งหมดออกเป็น 7 ประเภท ได้แก่ อาหารทะเล เนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ ข้าว เบเกอรี่ ดอกไม้ และตลาดสด นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการยังสามารถเลือกซื้อ "กระเช้าขอบคุณ" ได้จาก 23 ร้านค้า ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 มกราคม 2564
นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด แกร็บ ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า แกร็บ ในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลชั้นนำ มีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่คนไทย เราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สานต่อความร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อช่วยสนับสนุนภาคการเกษตรและการประมง พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้ก้าวข้ามผ่านวิกฤต เดินหน้าเข้าสู่ยุคธุรกิจดิจิทัลผ่านบริการ ตลาด Thai Fresh Marketบนแกร็บมาร์ท (GrabMart) เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเพิ่มช่องทางการตลาด และเชื่อมโยงการเข้าถึงผู้บริโภคที่หลากหลายผ่านแพลตฟอร์มของแกร็บ (Grab) จะช่วยส่งเสริมอาชีพและรายได้ให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยทั่วทั้งประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร. เก่งการ เหล่าวิโรจนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า แกร็บ มีความยินดีที่ได้สนับสนุนนโยบายของภาครัฐมาอย่างต่อเนื่อง โดยบริการ ตลาดThai Fresh Marketบนแกร็บมาร์ท (GrabMart) จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในการส่งเสริมผลผลิตจากผู้ประกอบการรายย่อยในรูปแบบดิจิทัล ขยายช่องทางการตลาดออนไลน์ พร้อมการบริการที่สะดวกและปลอดภัย เพื่อสอดรับกับแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคในยุค New Normal เรามุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแพลตฟอร์มของแกร็บจะช่วยสนับสนุนช่องทางรายได้ให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยและฟื้นฟูความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างยั่งยืนต่อไป