ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์วันนี้(14 ม.ค.)ดัชนีภาคเช้าปิดที่ระดับ 1,540.62 จุด ลดลง 6.69 จุด (-0.43%) มูลค่าการซื้อขายราว 51,510 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,552.78 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,534.52 จุด นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ย่อตัวลง จากแรงขายหุ้น DELTA เป็นหลักที่กดตลาดให้ปรับตัวลงไป ขณะที่หุ้นตัวอื่นปรับตัวลงไม่มากหรือส่วนใหญ่ก็จะนิ่งๆ ซึ่งจะเห็นมีแรงซื้อเข้ามาที่หุ้นในกลุ่มแบงก์ และกลุ่มค้าปลีกด้วยซ้ำ ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ต่างรอดูนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ แถลงเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ส่วนราคาน้ำมันเมื่อวานนี้ก็ย่อตัวลงทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานเช้านี้ดูจะอ่อนแรงลงไป ทั้งนี้ให้ติดตามการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐต่อไปหลังสภาผู้แทนราษฏรได้มีมติถอดถอนแล้ว และได้ยื่นเรื่องให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป ส่วนบ้านเราให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยเริ่มที่กลุ่มแบงก์ แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,535 จุด ส่วนแนวต้าน 1,560 จุด สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ได้แก่ SCGP มูลค่าการซื้อขาย 2,669.51 ล้านบาท ปิดที่ 46.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท,EA มูลค่าการซื้อขาย 1,944.46 ล้านบาท ปิดที่ 65.25 บาท ลดลง 1.75 บาท,CPALLมูลค่าการซื้อขาย 1,747.80 ล้านบาท ปิดที่ 58.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท,PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,688.03 ล้านบาท ปิดที่ 112.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง,GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,648.46 ล้านบาท ปิดที่ 84.50 บาท ลดลง 1.25 บาท