ผบช.ภาค3จัดโครงการ 1 อำเภอ 1 เซฟตี้โซนเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชน ชื่นชม สภ.กันทรลักษ์ ศรีสะเกษบูรณาการได้ผลทุกภาคส่วน
วันที่ 14 ม.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ที่ สภ.กันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) ได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ 1 อำเภอ 1 เซฟตี้โซน ซึ่ง พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ และคณะนายตำรวจ ได้จัดทำโครงการตามนโยบายของ ผบช.ภาค 3 ที่มุ่งเน้นในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม อำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนอย่างเสมอภาคเท่าเทียม นำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ และแสวงหาความร่วมมือจากภาคประชาชนและหน่วยงานต่าง ๆ โดยมีการมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรหลานของเจ้าหน้าที่ ตร.มอบแอลกอฮอล์ทำความสะอาดป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จากนั้น ผบช.ภาค 3 และคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการดำเนินการตามโครงการนี้ตามร้านทองและร้านค้าต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองกันทรลักษ์ ซึ่งพบว่า มีการติดตั้งกล้อง CCTV จำนวนมาก โดยมี พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ เป็นผู้กล่าวรายงาน และมี พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ พ.อ.บุญเสริม บุญบำรุง ผบ.ฉก.1 กองกำลังสุรนารี นายทรงชัย รุจิรารังสรรค์ นายกเทศมนตรีกันทรลักษ์ รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ รักษาราชการแทน นอภ.กันทรลักษ์ หัวหน้าส่วนราชการ และภาคเอกชนจำนวนมากให้การต้อนรับและเข้าร่วมพิธีเปิดโครงการ
พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ กล่าวว่า ปัจจุบัน สภ.กันทรลักษ์ ได้ดำเนินโครงการ 1 อำเภอ 1 เซฟตี้โซน คัดเลือกพื้นที่โครงการเซฟตี้โซน คือถนนสินประดิษฐ์ ตั้งแต่แยกเมืองทองไปจนถึงแยก กม. 0 รวมระยะทาง 850 เมตร เนื่องจากว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เศรษฐกิจมีประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์และอำเภอข้างเคียงเข้ามาประกอบกิจการเป็นจำนวนมาก มีสถาบันการเงินหลายแห่ง มีร้านค้าสะดวกซื้อหลายร้าน ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ โดยได้มีการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ จัดประชุมประชาคมหมู่บ้าน เพื่อแสวงหาความร่วมมือจากภาคประชาชนในพื้นที่ สายตรวจชุมชน และตำรวจบ้าน มีการมอบหมายเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการสำรวจ ตรวจสอบการใช้งานกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ให้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลาและมีประสิทธิภาพ โดยประสานงานหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ สนองนโยบายของ ผบช.ภาค 3 อย่างเต็มที่
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) กล่าวว่า แนวคิดในเรื่องการจัดทำโครงการนี้เนื่องจากว่า ถ้าการบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ จะส่งผลทำให้อาชญากรรมลดลง แล้วถ้าถามว่า เครื่องมืออะไรที่ทำให้ ตร.เราสามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ กล้อง CCTV ถ้าเรามีกล้อง CCTV ที่สามารถบันทึกภาพเรียลไทม์ได้ ถ้าหากมีเหตุเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ ตร.ก็จะสามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างรวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ จะส่งผลทำให้อาชญากรรมลดลง นี่คือหัวใจหลักของโครงการ 1 อำเภอ 1 เซฟตี้โซน ซึ่งในวันนี้ ได้มาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานและการดำเนินการตามโครงการนี้ ที่ อ.กันทรลักษ์เป็นอำเภอใหญ่มีชุมชน มีร้านทอง ร้านสะดวกซื้อและสถาบันการเงินหลายแห่ง จึงมีความจำเป็นมากที่จะต้องเกิดโครงการ 1 อำเภอ 1 เซฟตี้โซน โดยได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษและ พ.ต.อ.นรินทร บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ว่าได้รับความร่วมมืออย่างดีเยี่ยมจาก นายทรงชัย รุจิรารังสรรค์ นายกเทศมนตรีเมืองกันทรลักษ์ ที่ได้ให้ทั้งความร่วมมือและให้งบประมาณมาสนับสนุนโครงการอีกทั้ง ผกก.สภ.กันทรลักษ์ก็ได้นำเจ้าหน้าที่ ตร.เดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์โครงการนี้ทำให้ประชาชนมีความเข้าใจมากขึ้น จากเดิมที่มีกล้องวงจรปิด (CCTV) ประมาณ 10 ตัวเศษ ก็ได้มีการติดตั้งเพิ่มมากถึง 39 ตัว ซึ่งในโครงการที่กำหนดมีกล้อง CCTV ที่สามารถบันทึกภาพกรณีที่มีเหตุแล้วเราสามารถรวบรวมพยานหลักฐานย้อนหลังได้จำนวน 312 ตัว ก็ถือว่าโครงการนี้ เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนตามชุมชน การติดกล้องมากเท่าไร ชุมชนนั้นก็จะยิ่งมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ตนขอชื่นชมที่ ผกก.สภ.กันทรลักษ์และคณะ สามารถดำเนินการโครงการนี้ได้อย่างดีเยี่ยม
พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ กล่าวว่า ปัจจุบัน สภ.กันทรลักษ์ ได้ดำเนินโครงการ 1 อำเภอ 1 เซฟตี้โซน คัดเลือกพื้นที่โครงการเซฟตี้โซน คือถนนสินประดิษฐ์ ตั้งแต่แยกเมืองทองไปจนถึงแยก กม. 0 รวมระยะทาง 850 เมตร เนื่องจากว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เศรษฐกิจมีประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์และอำเภอข้างเคียงเข้ามาประกอบกิจการเป็นจำนวนมาก มีสถาบันการเงินหลายแห่ง มีร้านค้าสะดวกซื้อหลายร้าน ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ โดยได้มีการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ จัดประชุมประชาคมหมู่บ้าน เพื่อแสวงหาความร่วมมือจากภาคประชาชนในพื้นที่ สายตรวจชุมชน และตำรวจบ้าน มีการมอบหมายเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการสำรวจ ตรวจสอบการใช้งานกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ให้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลาและมีประสิทธิภาพ โดยประสานงานหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ สนองนโยบายของ ผบช.ภาค 3 อย่างเต็มที่
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) กล่าวว่า แนวคิดในเรื่องการจัดทำโครงการนี้เนื่องจากว่า ถ้าการบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ จะส่งผลทำให้อาชญากรรมลดลง แล้วถ้าถามว่า เครื่องมืออะไรที่ทำให้ ตร.เราสามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ กล้อง CCTV ถ้าเรามีกล้อง CCTV ที่สามารถบันทึกภาพเรียลไทม์ได้ ถ้าหากมีเหตุเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ ตร.ก็จะสามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างรวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ จะส่งผลทำให้อาชญากรรมลดลง นี่คือหัวใจหลักของโครงการ 1 อำเภอ 1 เซฟตี้โซน ซึ่งในวันนี้ ได้มาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานและการดำเนินการตามโครงการนี้ ที่ อ.กันทรลักษ์เป็นอำเภอใหญ่มีชุมชน มีร้านทอง ร้านสะดวกซื้อและสถาบันการเงินหลายแห่ง จึงมีความจำเป็นมากที่จะต้องเกิดโครงการ 1 อำเภอ 1 เซฟตี้โซน โดยได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษและ พ.ต.อ.นรินทร บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ว่าได้รับความร่วมมืออย่างดีเยี่ยมจาก นายทรงชัย รุจิรารังสรรค์ นายกเทศมนตรีเมืองกันทรลักษ์ ที่ได้ให้ทั้งความร่วมมือและให้งบประมาณมาสนับสนุนโครงการอีกทั้ง ผกก.สภ.กันทรลักษ์ก็ได้นำเจ้าหน้าที่ ตร.เดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์โครงการนี้ทำให้ประชาชนมีความเข้าใจมากขึ้น จากเดิมที่มีกล้องวงจรปิด (CCTV) ประมาณ 10 ตัวเศษ ก็ได้มีการติดตั้งเพิ่มมากถึง 39 ตัว ซึ่งในโครงการที่กำหนดมีกล้อง CCTV ที่สามารถบันทึกภาพกรณีที่มีเหตุแล้วเราสามารถรวบรวมพยานหลักฐานย้อนหลังได้จำนวน 312 ตัว ก็ถือว่าโครงการนี้ เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนตามชุมชน การติดกล้องมากเท่าไร ชุมชนนั้นก็จะยิ่งมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ตนขอชื่นชมที่ ผกก.สภ.กันทรลักษ์และคณะ สามารถดำเนินการโครงการนี้ได้อย่างดีเยี่ยม