นายเหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งได้รับพระราชทานอภัยโทษ ลดหย่อนการจำคุกคุมขังโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...
คดีกบฏไปถึงไหนแล้วไม่ทราบ โทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิตยังล่องลอยอยู่ในสายลม ของฝั่งแดงจำคุกกันร่วมร้อยคน บางคนโดนตลอดชีวิต บางคนโดนกว่าสิบปี เสียชีวิตในเหตุการณ์ร่วมร้อยคน บาดเจ็บร่วมสองพันคน เสียชีวิตเพราะร่างกายทรุดโทรม อันเกิดจากการใช้แก๊สที่อ้างว่าเป็นแก๊สน้ำตา แต่ไม่รู้ว่าสารเคมีอะไร จนป่วยเป็นโรคปอดโรคตับกันระนาวร่วงปลิดปลิว เสียชีวิตเพิ่มกันอีกหลายสิบ
แต่ฝั่งเหลืองยึดสนามบินนานาชาติ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ เชียงใหม่ สงขลา หาดใหญ่ สุราษฎร์ ฯลฯ กปปส.ปิดล้อมสนามสมัครรับเลือกตั้งไทยญี่ปุ่นดินแดง ปิดล้อมตัดน้ำตัดไฟโรงพักดินแดงกว่าสามสิบชั่วโมง ปิดล้อมโรงพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ใช้กำลังอาวุธยึดหีบบัตรเลือกตั้ง ปิดล้อมหน่วยเลือกตั้งด้วยกำลังอาวุธ ฆ่าหลายศพโยนลงสะพานพระราม 8 โยนลงสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ทิ้งไว้สนามกอล์ฟรถไฟจตุจักร ทิ้งไว้ใกล้วัดเสมียมนารี กองกำลังติดอาวุธเจ็ดกองที่ใช้อาวุธสงครามยิงประชาชน ที่สี่แยกหลักสี่ใกล้กองบัญชาการศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ หน่วยซีลที่ถูกจับได้พร้อมหลักฐานประจำตัว ขว้างระเบิดบรรทัดทอง ขว้างระเบิดอนุสาวรีย์ชัย เหยียบย่ำทำลายเกียรติยศของ สนง.ตำรวจแห่งชาติ ฯลฯ เห็นเงียบกริบ
ความพินาศฉิบหายของบ้านเมืองครั้งนี้เริ่มตั้งแต่เหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยา 2549 ของฝ่ายเผด็จการขวาจัดเพื่อเปลี่ยนประเทศเป็นรัฐทหารเต็มรูป แต่ภายนอกห่มคลุมด้วยประชาธิปไตย เมื่อยังไม่ได้ดังใจ ก็ให้ กปปส.มาสร้างสถานการณ์แล้วก็ยึดอำนาจซ้ำสองเมื่อ 22 พ.ค. 57 เพื่อสร้างความมั่นคงต่อเนื่องให้กับการยึดประเทศในรูปแบบประชาธิปไตยกำมะลอ แต่เป็นรัฐเผด็จการทหารสุดขั้วยาวนานต่อไป ความวิบัติยับเยินยังคงเดินหน้าต่อไปไม่หยุดยั้ง จวบจนบัดนี้และยังไม่รู้ว่าจะไปหยุดเมื่อไร?
