จนท.ตามล่าโรฮิงญากลับคืนได้แล้วจนมุมพร้อมนายหน้ามือพาพลบหนี ผวจ.เผยมาตรการเข้มข้นตรวจโควิด 19 – ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด กรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียรใหญ่ เข้าทำการจับกุมชาวโรฮิงญาหญิง จำนวน 3 รายในบ้านเลขที่ 424/1 ท้องที่หมู่ 7 ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครศรีธรรมราช และได้ใช้บ้านจุดจับกุมเป็นสถานที่กักตัว แต่ปรากฏว่าทั้ง 3 รายได้หลบหนีไปได้ โดยน่าเชื่อว่าจะมีผู้ที่ให้การช่วยเหลืองัดกุยแจด้านหลังพาหลบหนีเหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุดมีรายงานว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวชาวโรฮิงญาทั้ง 3 รายไว้ได้แล้ว นอกจากนั้นยังจับกุมนายหน้าชาวโรฮิงญา เป็นชายไว้ได้อีก 1 รายซึ่งเป็นผู้พาหลบหนี โดยทั้งหมดถูกจับกุมได้ในท้องที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ โดยทั้งหมดถูกคุมตัวไปสอบสวนขยายผลทันทีเนื่องจากถือว่าเป็นกรณีร้ายแรง นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าการจับกุมที่เชียรใหญ่ได้มีการกักขังและดำเนินคดี นอกจากนั้นยังมีการตรวจเชื้อมีผลเป็นลบ แต่มีการหลบหนีระหว่างกักกันหลังจากนั้นมีการเชื่อมต่อติดตามผู้ที่หนุนหลังนำทาง และท้ายที่สุดจับกุมมาได้พร้อมทั้งนายหน้าผู้นำพาหลบหนี โดยขณะนี้การเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวต้องดำเนินการทันที ต้องดำเนินคดีและตรวจหาโควิดเป็นมาตรการเร่งด่วนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังระบุเพิ่มเติมว่านครศรีธรรมราช ได้มีมาตรการตั้งด่านอย่างเข้มข้นถึง 11 ด่าน และ 7 ด่านใน 11 ด่านเป็นด่านความมั่นคงที่มีมาตรการรองรับอยู่แล้วจะเห็นได้ว่าการผ่านเส้นทางเข้ามาจะสามารถจับกุมได้บ่อยครั้ง ขณะเดียวกันมีข้อมูลรายงานเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จุฬาภรณ์ นครศรีธรรมราช ว่าเจ้าหน้าที่ได้จับกุมชาวโรฮิงญา ที่กำลังใช้เส้นทางในพื้นที่เดินทางหลบหนีเจ้าหน้าที่ได้อีก 4 รายเป็นชาย 1 ราย หญิง 2 ราย และเด็กอายุ 2 ขวบอีก 1 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจตัวอย่างเชื้อโควิดอย่างเร่งด่วนแล้วและอยู่ในระหว่างการสอบสวนดำเนินการ.