EXIM BANK ปลื้มผลประกอบการครึ่งปีแรก 60 ฉลุยฟันกำไรสุทธิเกือบ 700 ล้านบาท พร้อมหนุนผู้ประกอบการ SMEs เพิ่มเขี้ยวเล็บการแข่งขันระหว่างประเทศ ที่ปริมาณธุรกิจกว่า 5 หมื่นล้านบาท นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2560 ภายใต้บทบาทใหม่ของ EXIM BANK ว่า ตั้งแต่ต้นปี 2560 (มกราคม – มิถุนายน) EXIM BANK มุ่งดำเนินการตามแผนแม่บท EXIM BANK ปี 2570 และกระบวนการปรับเปลี่ยนองค์กร (EXIM Transformation Journey) โดยผลงานสำคัญที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เช่น การกำหนดยุทธศาสตร์การค้าการลงทุนและการเปิดสำนักงานผู้แทนในประเทศเมียนมา การประสานและสร้างความสัมพันธ์เพื่อทำงานร่วมกันกับทีมไทยแลนด์ การจัดทำ MOU กับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (China EXIM) และธนาคารการค้าต่างประเทศของเมียนมา (Myanma Foreign Trade Bank : MFTB) เป็นต้น รวมถึงการขยายการให้บริการรับประกันเพื่อช่วยประกันความเสี่ยงและสร้างเสถียรภาพให้ผู้ประกอบการไทย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการส่งเสริมการตลาดการรับประกันร่วมกับพันธมิตรและการพัฒนาระบบประกันการส่งออกออนไลน์ระยะที่ 1 รวมถึงดำเนินการสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ที่มีศักยภาพสูง (Hi-Potential SMEs) ให้เป็นผู้ส่งออกผ่านโครงการ Genius Academy ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ EXIM BANK ที่จะบรรลุวิสัยทัศน์ในการ “เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจชั้นนำระดับโลกที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของไทย” อีกทั้งเพื่อตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 และ Thailand 4.0 และแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจสาขาสถาบันการเงินที่กำหนดให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐเป็นสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาในการสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างทั่วถึง ควบคู่กับการให้ความรู้ทางการเงินเพื่อสนับสนุนความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก พัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมภายใต้การบริหารจัดการองค์กรที่มั่นคง โปร่งใส และยั่งยืน โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการและให้บริการทางการเงิน นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2560 EXIM BANK มีกำไรสุทธิ 668 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2560 มีเงินให้สินเชื่อคงค้างจำนวน 85,391 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจำนวน 12,075 ล้านบาท ซึ่งเป็นสินเชื่อใหม่ที่เบิกจ่ายเพิ่มขึ้นในระหว่างปีจำนวน 13,932 ล้านบาท และมีการชำระคืนของสินเชื่อเดิมบางส่วน ทำให้เกิดปริมาณธุรกิจ (Business Turnover) 79,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22,741 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมทั้ง EXIM BANK ได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs ให้แข่งขันด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศได้มากขึ้น โดยมีปริมาณธุรกิจของ SMEs เท่ากับ 50,322 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,224 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีเงินให้สินเชื่อคงค้างแก่ SMEs 36,369 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6,139 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.31 ขณะที่อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคาร (NPLs Ratio) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2560 อยู่ที่ร้อยละ 3.61 โดยมีสินเชื่อด้อยคุณภาพจำนวน 3,086 ล้านบาท ลดลง 658 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีเงินสำรองหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 7,208 ล้านบาท โดยเป็นสำรองหนี้พึงกันตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 3,033 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินสำรองที่กันไว้แล้วต่อสำรองพึงกันร้อยละ 237.65 ทำให้ธนาคารยังคงดำรงฐานะการเงินที่มั่นคง นอกจากนี้ EXIM BANK ยังมีส่วนช่วยส่งเสริมผู้ส่งออกในการทำหน้าที่องค์กรรับประกันเพื่อช่วยผู้ส่งออกคลายความกังวลว่าจะไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อต่างประเทศและสามารถช่วยให้ผู้ส่งออกไทยแข่งขันได้มากขึ้น โดยใน 6 เดือนแรกของปี 2560 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจด้านการรับประกันการส่งออกและลงทุนรวมเท่ากับ 35,360 ล้านบาท โดย 5,757 ล้านบาทเป็นธุรกิจส่งออกของ SMEs หรือร้อยละ 16.28 ของปริมาณธุรกิจสะสมรวม ทั้งนี้ มียอดรับประกันคงค้าง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2560 จำนวน 22,988 ล้านบาท สำหรับการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการขยายฐานการค้าและการลงทุนไปยังต่างประเทศ ปัจจุบัน EXIM BANK มีวงเงินให้การสนับสนุนแก่สินเชื่อโครงการระหว่างประเทศรวมทั้งสิ้น 69,913 ล้านบาท และมีเงินให้สินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2560 จำนวน 36,332 ล้านบาท นอกจากนี้ EXIM BANK ยังมุ่งเน้นการขยายฐานการค้าและการลงทุนในตลาดใหม่อย่าง CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) โดยเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 EXIM BANK ได้เปิดสำนักงานผู้แทนในย่างกุ้ง เมียนมา รวมทั้งมีแผนจะเปิดสำนักงานผู้แทนใน สปป.ลาว และกัมพูชาต่อไป “ในปัจจุบันยังมีโอกาสทางการค้าและการลงทุนอยู่มากในตลาดโลก รวมทั้งตลาดใหม่ๆ ที่ผู้ประกอบการไทยยังไม่คุ้นเคย EXIM BANK จึงพร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs ให้แข่งขันได้ ด้วยเงินทุนหมุนเวียนและเครื่องมือบริหารความเสี่ยง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ เพื่อช่วยให้ธุรกิจไทยเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในตลาดต่างๆ ทั่วโลก” นายพิศิษฐ์กล่าว