ดร.ณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ร่างพ.ร.บ.พัฒนารัฐวิสาหกิจฯ ประกอบด้วยหลักการสำคัญ 6 เรื่อง คือ 1.การจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ คนร. ซึ่งเป็นคณะกรรมการระดับชาติ เพื่อกำหนดนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบ 2. มีแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจ เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนารัฐวิสาหกิจให้สอดคล้องแผนพัฒนาฯ และยุทธศาสตร์ชาติ 3.มีกระบวนการสรรหากรรมการที่ชัดเจน มุ่งเน้นประสบการณืและความรู้ความสามารถที่จำเป็นในการดำเนินการและการพัฒนาของรัฐวิสาหกิจ 4. มีกลไกระบบการกำกับดูแลที่ดี เพื่อเปิดเผยข้อมูลให้เกิดความโปร่งใสและส่งเสริมความรับผิดชอบในการดำเนินตามนโยบายของรัฐบาล 5.พัฒนาระบบประเมินผลที่เชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์ชาติรัฐวิสาหกิจและนโยบายอย่างเป็นระบบ และ 6. จัดตั้ง"บรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติ" และทำหน้าที่ในฐานะผู้ถือหุ้นเชิงรุก (Active shareholder) เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ทั้งนี้ กฏหมายพ.ร.บ.พัฒนารัฐวิสาหกิจดังกล่าวมีความสำคัญมาก เนื่องจากรัฐวิสาหกิจเป็นกลไลรัฐที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและงบลงทุนของประเทศ เพราะงบลงทุนครึ่งหนึ่งของประเทศมาจากรัฐวิสาหกิจ นอกจากนี้รัฐวิสาหกิจยังเป็นผู้ให้บริการสาธารณะที่สำคัญในทุกๆด้านเกี่ยวข้องกับประชาชน อาทิ บริการเกี่ยวข้องกับน้ำ, ระบบไฟฟา ,ระบบคมนาคมขนส่งต่างๆ เป็นต้น จึงจำเป็นต้องมีการฏิรูป โดยจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมาดูแล ซึ่งจะไม่มีผลกระทบหากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เพราะเป็นครั้งแรกที่มีแผนยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน และมีการจัดตั้งบรรษัทรัฐวิสาหกิจแห่งชาติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน มีกระบวนการสรรหากรรมการโดยคำนึงถึงทักษะความสามารถ โปร่งใส มีการบริหารงานด้วยระบบธรรมาภิบาล โปร่งใส และมีระบบประเมินผลงานในทุกระดับ นอกจากนี้พ.ร.บ.ดังกล่าวยังจะทำให้การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจมีความบูรณาการ เป็นระบบ และโปร่งใสมากขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจที่จะนำไปสู่สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการจัดทำบริการสาธารณะที่มีคุณภาพให้แก่ประชาชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนให้กับประเทศ ซึ่งเชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้ผ่านขั้นตอนละเอียดมาก คาดว่าน่าจะนำมาใช้ได้ทันในปีงบประมาณหน้า อย่างไรก็ตามตามบัญชีแนบท้ายจะมีการตั้งบรรษัทฯ รับโอนกิจการจากรัฐวิสาหกิจที่มีฐานะเป็นบริษัทจำกัดจำนวน 11 แห่งจากทั้งหมด 13 แห่ง ซึ่งประกอบด้วย1.บมจ. กสท โทรคมนาคม 2.บมจ.การบินไทย (THAI) 3.บริษัท ขนส่ง จำกดั 4. บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) 5. บมจ. ทีโอที 6. บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด 7. บมจ. ปตท. (PTT) 8. บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด 9. บริษัท สหโรงแรมไทยและการท่องเที่ยว จำกัด 10. บมจ. อสมท (MCOT) และ 11. บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด โดยจะมีรัฐวิสาหกิจ 2 แห่งที่ไม่มีการตั้งบรรษัทฯ คือ ธนาคารกรุงไทย (KTB) ที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นกองทุนฟื้นฟูฯ และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ซึ่งไม่ใช่กิจการเพื่อการพาณิชย์