ดร.ณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติงบกลางปี 2560 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินจำเป็นในกรอบวงเงินงบประมาณ 1,685 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเนื่องจากพายุตาลัสและพายุเซินกา ครัวเรือนละ 3,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมามีเกษตกร โดยเฉพาะเกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางได้รับผกระทบจากพายุ 2 ลูกดังกล่าว 36 จังหวัด มีพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบประมาณ 4.44 ล้านไร่ พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับผบลกระทบ 27,456 ไร่ กระชัง 416 ตร.ม. สัตว์ได้รับผลกระทบ 1,179,592 ตัว และแปลงหญ้าอีก 417 ไร่ ทั้งนี้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำเงินไปชำระหนี้ และสามารถใช้ประทังชีวิตช่วงนี้ให้ผ่านพ้นไปได้ เป็นการช่วยเหลือเพิ่มเติมจากระเบียบของกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดลองราชการ สำหรับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในความเสียหายบางส่วน และเกษตรกรที่จะได้รับเงินช่วยเหลือต้องมีคุณสมบัติที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากพายุตาลัสและพายุเซินกา และต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรและประกอบกิจกรรมทางการเกษตรในช่วงที่ผ่านมาตามที่แจ้งขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานกระทรวงเกษตรฯ ก่อนที่จะเกิดภัยอุทกภัยเท่านั้น สำหรับเกษตรการรายไดได้รับผลกระทบมากกว่าหนึ่งด้านก็จะได้รับช่วยเหลือเพียงด้านเดียวเท่านั้น ซึ่งเกษตรกรต้องระบุอย่างชัดเจนว่าจะขอรับความช่วยเหลือในด้านใด โดยจะมีคณะกรรมการระดับหมู่บ้านชุมชน รับรองเกษตรกรว่ามีคุณสมบัติครบตามที่ระบุไว้หรือไม่ อย่างไรก็ตามความช่วยเหลือดังกล่าวจะต้องให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับจากนี้เป็นต้นไป (8 ส.ค. 2560) ด้านดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า วันนี้ทางคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ..... หรือ พ.ร.บ.พัฒนารัฐวิสาหกิจ ของกระทรวงการคลัง ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ก่อนเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาต่อไป โดยตัวกฏหมายพ.ร.บ.พัฒนารัฐวิสาหกิจจะเป็นหัวใจสำคัญในการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ เป็นความคืบหน้าที่สำคัญในการปฎิรูปรัฐวิสาหกิจ