สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพวกขวาจัด จำนวนหลายร้อยคนพากันบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา หรือสภาคองเกรส ย่านแคปิตอลฮิลล์ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐฯ เมื่อช่วงเย็นของวันพุธที่ผ่านมา ตามวันเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลาช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีนี้ ตามวันเวลาในไทย เพื่อประท้วงและพยายามกดดันให้เหล่าสมาชิกรัฐสภา เปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พ.ย.63 ที่ปรากฏว่า นายโจ ไบเดน ผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มผู้ประท้วงได้ทำลายประตู หน้าต่าง และทุบกระจก ก่อนบุกเข้าไปภายในอาคารสภาคองเกรส ซึ่งบรรดาสมาชิกสภาคองเกรส ทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา กำลังที่จะประชุมร่วมเพื่อรับรองชัยชนะของนายไบเดน ส่งผลการประชุมข้างต้นต้องเลื่อนออกไป โดยมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องช่วยกันพาสมาชิกสภาคองเกรสออกจากอาคารรัฐสภา ก่อนที่จะดำเนินการเคลียร์พื้นที่ด้วยการให้กลุ่มผู้ประท้วงออกจากอาคารรัฐสภา และห้องโถงต่างๆ ซึ่งใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง กว่าจะเคลียร์พื้นที่ได้สำเร็จ ท่ามกลางสถานการณ์โกลาหล และเกิดการปะทะกันขึ้น รายงานข่าวเผยว่า จากการเคลียร์พื้นที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พบร่างของสตรีรายหนึ่ง ถูกอาวุธปืนไม่ทราบฝ่ายยิงเสียชีวิต ในระหว่างที่เกิดการชุลมุนวุ่นวายขึ้น พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง หรือเอฟบีไอ เปิดเผยว่า ได้พบวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นระเบิดจำนวน 2 ลูก ในอาคารรัฐสภา แต่ได้ปลดชนวนเรียบร้อยแล้ว