วันที่ 5 มกราคม 2564 นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยเกี่ยวกับมาตรการต่อผู้ที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร ซึ่งปรากฏรายงานข่าวการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กลายพันธุ์ว่า ไทยมีมาตรการที่เข้มงวดในการคัดกรองโรคตั้งแต่ต้นทางและกำหนดให้ผู้เดินทางเข้าไทยทุกคนต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วันอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องปิดกั้นการเดินทางของผู้เดินทางจากสหราชอาณาจักร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเน้นย้ำ ว่า ไทยมีมาตรการที่เข้มงวดในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ต้นทาง โดยคนต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยจะต้องมีใบรับรองแพทย์ว่าปลอดเชื้อโควิด-19 และผู้เดินทางทุกคนต้องเข้ากักกันโรคเป็นเวลา 14 วันอยู่แล้ว ซึ่งเป็นมาตรการการควบคุมโรคที่มีความเข้มงวดและมีประสิทธิภาพสูง ในกรณีรายงานข่าวพบครอบครัวชาวอังกฤษ 4 คนที่เดินทางเข้าไทยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษ ทุกคนก็อยู่ในสถานที่กักกันโรค ไม่ได้ออกมาปะปนกับผู้คนทั่วไป ทั้งนี้ ในการประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศบค. วานนี้ (4 ม.ค. 2564) ซึ่งมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นประธาน ได้มีการหารือในประเด็นดังกล่าว โดยที่ประชุมเห็นว่าการปรับมาตรการเพิ่มเติมในการคัดกรองคนไทยและต่างชาติจากสหราชอาณาจักรต้องพิจารณาเหตุผลด้านสาธารณสุขเป็นสำคัญ อย่างไรก็ดี หน่วยงานด้านสาธารณสุขเห็นว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลมากพอหรือการยืนยันผลที่เป็นข้อยุติว่าโควิดสายพันธุ์อังกฤษร้ายแรงกว่าอย่างไร และยังไม่มีข้อมูลว่าเป็นเฉพาะที่มาจากอังกฤษหรือไม่ อย่างไรก็ดี วันนี้ (5 ม.ค. 2564) ที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 1/2564 มีมติให้กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยในต่างประเทศที่มีความเสี่ยง สามารถเรียกเอกสารเพิ่มเติมจากผู้เดินทางได้ เช่น การตรวจเชื้อโควิด-19 ในคนไทย เพื่อป้องกันการติดเชื้อในระหว่างการเดินทาง ในการนี้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ จึงแนะนำให้คนไทยในต่างประเทศติดตามประกาศของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ในพื้นที่ของตนเองเพื่อเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนการเดินทาง ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการคัดกรองโรคเท่านั้น แต่ไม่มีนโยบายปิดกั้นการเดินทางเข้าประเทศไทยแต่อย่างใด