สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศผ่านสถานีโทรทัศน์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ให้มีคำสั่งมาตรการปิดพื้นที่ หรือล็อกดาวน์ ทั้งประเทศ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันอังคารที่ 5 ม.ค. ไปจนถึงช่วงกลางเดือน ก.พ. เพื่อควบคุมสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไวรัสโควิดฯ สายพันธุ์ใหม่ “บี.1.1.7 (B.1.1.7)” ซึ่งกลายพันธุ์ในอังกฤษ ที่มีอัตราการแพร่ระบาดรวดเร็วกว่าสายพันธุ์เดิมถึงร้อยละ 70 รายงานข่าวแจ้งว่า ผลจากการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 3 ของอังกฤษนี้ จะทำให้ประชาชนต้องอยู่แต่ในเคหสถานที่พัก ส่วนการเดินทางจะได้รับการอนุญาตเป็นการเฉพาะเท่านั้น รวมถึงสถานการศึกษาต่างๆ ทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ก็จะปิดการเรียน การสอน ที่สถานการศึกษา แต่จะใช้วิธีการศึกษาแบบทางไกลแทน พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีจอห์นสัน ยังแถลงด้วยว่า จะเป็นช่วงเวลาหลายสัปดาห์แห่งความยากลำบากที่สุดของชาวอังกฤษนับจากนี้ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดฯ ที่มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับ สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดฯ ในอังกฤษ พบผู้ป่วยติดเชื้อสะสมจำนวน 2,713,563 ราย มากเป็นอันดับ 5 ของโลก ส่วนผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวน 75,431 ราย