สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ท่ามกลางการระบาดของเชื้อโควิดระลอกใหม่ ทำให้ทั่วโลกต้องหันกลับมาใช้มาตรการคุมเข้มอีกครั้ง เช่น การล็อกดาวน์ ปิดประเทศ ประกาศเคอร์ฟิวกันอีกครั้ง ซึ่งส่งผลให้ผู้คนทั่วโลกต้องนั่งชมงานเคาต์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันอยู่ที่บ้าน โดยหลายๆ ประเทศ เริ่มต้นจากประเทศออสเตรเลียที่จะเข้าสู่ปีใหม่ก่อนประเทศอื่นไปจนถึงอีกซีกโลกหนึ่งที่จะได้ฉลองปีใหม่ในอีก 26 ชั่วโมงให้หลัง ต้องเปลี่ยนแผนการจัดงานจากเดิมที่มีคนออกไปรวมตัวกันบริเวณแลนด์มาร์กของเมือง กลายเป็นต้องดูการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางออนไลน์อยู่ที่้บ้าน หรือบางเมืองจำเป็นต้องยกเลิกงานไปเลย แต่ในส่วนของเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียยังคงมีการจัดแสดงพลุแต่จำกัดจำนวนผู้คนที่จะเข้าไปชม เนื่องจากทางการสั่งเข้มงวดการเดินทางเข้าออกซิดนีย์หลังพบกลุ่มคนที่มีการแพร่ระบาดประมาณ 150 ราย ส่วนทางประเทศฝรั่งเศส บราซิล จะมีทั้งตำรวจและทหาร คอยลาดตระเวนตามท้องถนนในช่วงเวลาเคอร์ฟิว โดยมีการห้ามชุมนุมรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในครั้งนี้ ขณะที่ในกรุงลอนดอนของประเทศอังกฤษซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักได้มีการจัดกิจกรรมร้องเพลงสดุดีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่เสียชีวิตจากโควิด-19 โดยถ่ายทอดสดผ่านยูทูบ และมีเพียงบางประเทศเท่านั้นที่ได้ฉลองปีใหม่แบบไม่ต้องมีมาตรการเข้มงวดมาควบคุม อาทิ ประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งในหลายเมืองจะจัดงานจุดพลุตามเดิม เพียงแต่จำกัดจำนวนคนเข้าชม สำหรับเมืองดูไบ มีผู้คนนับพันเข้าร่วมชมการจุดพลุและยิงแสงเลเซอร์จากตึกเบิร์จ คาลิฟา โดยอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 คือ ต้องสวมหน้ากากอนามัยและสแกนคิวอาร์โค้ด