เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(กนช.)ได้เล็งเห็นความสำคัญของทรัพยากรน้ำ ที่เป็นปัจจัยหลักสำคัญในทุกกิจกรรม เดินหน้าพิจารณาแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โครงการขนาดใหญ่ และโครงการสำคัญที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์การขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งที่จะถึงนี้ เพื่อช่วยเหลือและลดผลกระทบต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ กรมชลประทาน พร้อมเดินหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่มเติม ตามมติของ กนช. เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 63 เห็นชอบให้กรมชลประทาน ดำเนินโครงการเพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำท่วม และการพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่มเติม ตามแผนการขับเคลื่อนแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ประกอบไปด้วย แผนหลักการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและการระบายน้ำพื้นที่ชุมชนเมืองพัทยาและพื้นที่ต่อเนื่อง,แผนหลักการพัฒนาการใช้ประโยชน์ จากแม่น้ำโขงและลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขง และแผนหลักการบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง รวมไปถึงการกำหนดรูปแบบและแนวทางการใช้พื้นที่ลุ่มต่ำเป็นพื้นที่รับน้ำนอง สำหรับเป็นแนวทางใช้ในการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน ตลอดจนการจัดทำบัญชีพื้นที่ลุ่มต่ำเป็นพื้นที่รับน้ำนอง ที่กรมชลประทานและกรมทรัพยากรน้ำได้ดำเนินการ นอกจากนี้ ยังได้เห็นชอบให้กรมชลประทานดำเนินการตามแผนพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่มเติม ได้แก่ โครงการอ่างเก็บน้ำบ้านหนองกระทิง จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นโครงการขนาดกลาง ที่มีความพร้อมที่จะเสนอขอตั้งงบประมาณในปี 2565 มีความจุที่ระดับเก็บกัก 15 ล้านลูกบาศก์เมตร หากแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มพื้นที่ชลประทานในฤดูฝนได้ประมาณ 10,000 ไร่ และในฤดูแล้งประมาณ 3,000 ไร่ ทำให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภค และเสริมการผลักดันน้ำเค็มในแม่น้ำบางปะกง รวมทั้งรองรับการใช้น้ำโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ด้วย