กรมชลประทาน เร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตจังหวัดนราธิวาส และปัตตานีอย่างต่อเนื่อง ระดมเครื่องจักร เครื่องมือ เข้าไปให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ให้เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด หลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และปัตตานีว่า ที่จังหวัดนราธิวาส สำนักงานชลประทานที่ 17 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำช่วยเหลือพื้นที่ศูนย์ราชการและบริเวณเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส นอกจากนี้ในพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมของจังหวัดนราธิวาสยังได้ติดตั้งเครื่องสูบนี้รวม 16 เครื่อง เครื่องสูบน้ำด้วยระบบไฮดรอลิค (Hydro Flow) 7 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 8 เครื่อง และสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า 10 สถานี พร้อมทั้งยกบานประตูระบายทุกแห่งพ้นน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีน้ำท่วมขังให้เร็วที่สุด ส่วนแม่น้ำโก-ลก มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติในเร็ววันนี้ ด้านจังหวัดปัตตานี ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 2 อำเภอ ได้แก่ อ.หนองจิก และอ.เมืองปัตตานี ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานี ที่สถานีวัดน้ำท่า X.275 บ.บริดอ อ.เมือง ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งประมาณ 42 เซนติเมตร แนวโน้มเพิ่มขึ้น ที่สถานีวัดน้ำท่า X.10A ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 36 เซนติเมตร แนวโน้มลดลง ในส่วนของลุ่มน้ำสหากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติในเร็ววันนี้ส่วนทางด้านของแม่น้ำสายบุรี ที่สถานีวัดน้ำท่า X.272 บ.ลาคอ อ.สายบุรี ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 2.03 เ มตร แนวโน้มเพิ่มขึ้น สำนักงานชลประทานที่ 17 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง บริเวณพนังกั้นน้ำโรงพยาบาลหนองจิก อำเภอหนองจิก เร่งระบายน้ำทีท่วมขัง จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติในเร็ววันนี้เช่นกัน ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศในพื้นที่ภาคใต้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าในระยะนี้ไปจนถึงวันสิ้นปี ในพื้นที่ภาคใต้ยังมีฝนตกหนักเป็นแห่งๆ จึงขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากได้อีก หากต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460