รายงาน: องคมนตรีลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี เมื่อเร็วๆ นี้ พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคกลาง นายลลิต ถนอมสิงห์ รองเลขาธิการ กปร. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปยังโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ศูนย์ฝึกอาชีพเยาวชนเกษตรของมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ประจันต์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี เพื่อชมผลการดำเนินงาน ผลสัมฤทธิ์ ปัญหาอุปสรรค พร้อมคำแนะนำและให้กำลังใจกับผู้ปฏิบัติงาน ช่วงเช้า องคมนตรีและคณะฯ ได้เดินทางไปยังโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลสามพระยา อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โอกาสนี้นั่งรถพ่วงเยี่ยมชมการดำเนินงานภายในโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายฯ และร่วมปล่อยปลาบริเวณอ่างเก็บน้ำเขากระปุก จากนั้นเยี่ยมชมแปลงหญ้าแฝกและงานพัฒนาที่ดิน แปลงถ่านชีวภาพ ไบโอชา โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ (แปลง 5 ไร่) โครงการอาคารแสดงสินค้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฯ และเยี่ยมชมบริเวณร้านค้าสวัสดิการ โดยมี พ.ต.อ. พันธ์ศักดิ์ สมันตรัฐ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายฯ บรรยายสรุปและนำชมกิจกรรมของโครงการ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายฯ จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2526 พร้อมกับพระราชทานพระราชดำริ สรุปความว่า “... ให้พัฒนาพื้นที่เป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาด้านการเกษตรกรรม โดยเน้นการปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูสภาพป่าไม้ให้กลับอุดมสมบูรณ์ดังเดิม สามารถทำการปลูกพืชชนิดต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการปลูกป่า จัดหาแหล่งน้ำสนับสนุน การปลูกป่าและการเพาะปลูกพืช จัดระเบียบให้ราษฎรในพื้นที่โครงการให้เข้าอยู่อาศัย และทำกินอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการและสอดคล้องกับธรรมชาติ ให้ราษฎรเข้าร่วมดูแลรักษา ตลอดจนได้อาศัยผลผลิตจากป่าและเพาะปลูกพืชต่างๆ โดยไม่ต้องเข้าไปบุกรุกทำลายป่าไม้อีกต่อไป…” โดยหน่วยงานต่างๆ ได้ร่วมกันดำเนินงานสนองพระราชดำริอย่างต่อเนื่อง โดยมีตำรวจตระเวนชายแดน ทำหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ฯ และได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงาน กปร. ภารกิจสำคัญมุ่งเน้นการจัดการเกี่ยวกับ ดิน น้ำ ป่าไม้ การเกษตรและการประกอบอาชีพ เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและสัตว์ป่าให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์ รวมถึงการนำผลสำเร็จจากแนวทางการพัฒนาตามแนวพระราชดำริไปเผยแพร่ขยายผลสู่ประชาชนในพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 29 หมู่บ้าน รวม 4,719 ครัวเรือน ส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีอาชีพ มีรายได้ และมีความสุขอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางการจำหน่ายผลผลิตของเกษตรกรและประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านรอบศูนย์ฯ เพื่อช่วยสร้างอาชีพ และเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมทั้งได้สนับสนุนโครงการเกษตรอาหารกลางวันของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และเพชรบุรี จำนวน 10 โรงเรียน ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2563 มีผู้สนใจเข้ามาศึกษาดูงานและเยี่ยมชมศูนย์ฯ มากถึง 61,378 คน แม้จะมีสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ศูนย์ฯ ได้ช่วยสนับสนุนปัจจัยการผลิตและความรู้ในการประกอบอาชีพให้แก่ประชาชนที่กลับถิ่นฐานอีกด้วย จากนั้น องคมนตรีและคณะฯ เดินทางไปยังศูนย์ฝึกอาชีพเยาวชนเกษตร มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เพื่อเยี่ยมชมผลการดำเนินงานของศูนย์ฝึกอาชีพฯ ที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชนที่ขาดแคลน ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา เติบโตเป็นพลเมืองที่ดี มีอาชีพที่ยั่งยืน รวมถึงได้ขยายผลไปยังเกษตรกรในชุมชนโดยรอบ