เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผบก.สท. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยซึ่งเป็นผลกระทบจากพายุโซนร้อน “เซินก้า” (SONCA) และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ได้เข้าปกคลุมประเทศไทย ในช่วงระหว่างวันที่ 24-25 กรกฎาคม 2560 ผ่านมา จึงส่งผลให้หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทย ได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง บ้านเรือนที่อยู่อาศัย รวมถึงทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนได้รับเสียหาย เป็นจำนวนมาก พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยต่อประชาชนผู้ประสบอุทกภัย จึงสั่งการและกำชับให้ทุกหน่วยในสังกัด บูรณาการความร่วมมือในการให้ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ต่อพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นในการขนย้ายสิ่งของการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน, การอำนวยความสะดวกด้านจราจร ร่วมทั้งการป้องกันและปราบปรามกลุ่มมิจฉาชีพที่มักจะฉวยโอกาสในช่วงที่เกิดสถานการณ์ดังกล่าว โดยในส่วนกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการจัดตั้งศูนย์รับบริจาคสิ่งของ และเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ณ อาคาร 13 กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อรับบริจาคเงิน และสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น อาทิ อาหารแห้ง, น้ำดื่ม, ยารักษาโรค, เสื้อผ้า และเครื่องใช้ส่วนตัวต่าง ๆ เป็นต้น โดยจัดให้มีพิธีเปิดศูนย์รับบริจาคเงิน สิ่งของ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในวันอังคารที่ 1 สิงหาคม 2560 ซึ่งได้รับเกียรติจาก พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาเป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ฯ ณ บริเวณลานด้านหน้าอาคาร 13 กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้ที่มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินและ สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น ได้ที่ อาคาร 13 กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2205 1005 และ 0 2252 8772 กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความห่วงใยต่อประชาชนที่ ประสบอุทกภัยในขณะนี้ จึงสั่งการให้ และกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยงาน ในสังกัดบูรณาการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ช่วยขนย้ายสิ่งของให้พ้นน้ำไปไว้ในสถานที่ปลอดภัย และ อำนวยความสะดวกด้านการจราจรรวมถึงการป้องการปราบปรามกลุ่มวิชาชีพที่มักจะถือโอกาสในช่วงที่เกิดสถานการณ์ดังกล่าว สำหรับสถานะการณ์อุกทกภัยครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 ราย จ.ศรีสะเกษ 1 ราย จ.สกลนคร 4 ราย จ.ร้อยเอ็ด 1 ราย จ.มุกดาหาร 2 ราย จ.อุดรธานี 2 ราย จ.มหาสารคาม ส่วนผู้สูญหายที่ จ.สกลนคร อยู่ระหว่างตรวจสอบในส่วนของตำรวจได้ดำเนินการตรวจสอบตรวจสอบข้อมูลผู้ที่พ้นโทษมาแล้ว หรือมีคดีเกี่ยวกับมีประวัติคดีเรื่องลักทรัพย์, ชิงทรัพย์ต่างๆ โดยให้ตำรวจในพื้นที่ตรวจสอบจัดทำประวัติไว้และลงไปอำนวยความสะดวกในการช่วยเหลือประชาชนดังกล่าว