ใช้ชื่ออดีตลูกจ้างรับเงิน/ “นายก-ปลัด”ปัดไม่ทราบเรื่อง นครพนม : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการร้องเรียนจากนายไพศาล หรือฝ้าย แก้วมูลมุข อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ที่ 3 ต.พนอม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม อดีตลูกจ้างชั่วคราวของ อบต.พนอม เนื่องจากมีชื่อได้รับเงินการเข้าเวรกู้ภัย จำนวน 4,080 บาท ทั้งที่ได้ได้มีการเข้าเวร และได้ให้ภรรยาเป็นตัวแทนเซ็นใบลาออกมาแล้วหลังจากได้งานทำใหม่ที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวแม้จะมีการโอนเข้าบัญชีของตน แต่ก็มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งในอบต.พนอม ให้โอนกลับไปให้ นายไพศาล กล่าวว่า ตนเข้ามาทำงานอยู่ฝ่ายโยธาของ อบต.พนอม เมื่อปี 2555 ทำหน้าที่เก็บขยะมูลฝอย เงินเดือน 10,000 บาท หากว่างจะไปเข้าเวรกู้ชีพกู้ภัย ตั้งแต่ 19.00-07.00 น. ครั้งละ 120 บาท โดยมีหัวหน้าป้องกันบรรเทาสาธารณภัยของ อบต.เป็นผู้จัดตารางเวรยาม ซึ่งตนก็ไปเข้าเวรตามคำสั่งของหัวหน้าแต่ไม่บ่อยครั้งนัก เนื่องจากไม่ใช่คนสนิท ซึ่งหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร งานใน อบต.เริ่มไม่เป็นระบบระเบียบ ถูกสั่งใช้งานแทบไม่มีเวลาพัก เหมือนเป็นการบีบบังคับให้ลาออกทางอ้อม ทำให้ลูกจ้างชั่วคราวหลายคนได้ทยอยยื่นหนังสือลาออกรวมทั้งตน ซึ่งได้เปลี่ยนงานใหม่ไปทำงานที่โรงงานในจังหวัดขอนแก่นกับญาติ โดยให้นางพิมพ์ใจ นามพวน อายุ 48 ปี ภรรยา เป็นตัวแทนผู้เซ็นชื่อขอลาออกที่อบต. “กระทั่งวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมาได้รับโทรศัพท์จากภรรยาว่า ให้ไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มส่งมาให้เจ้าหน้าที่รายหนึ่งด่วน ตนถามว่าเป็นเงินอะไรก็ได้คำตอบเป็นเงินค่าเข้าเวรกู้ภัย จำนวน 4,080 บาท แถมถูกข่มขู่ว่าหากไม่นำไปคืน จะไม่ได้รับเงินเดือนงวดสุดท้ายกับโบนัสประจำปี จึงสงสัยไม่ได้เข้าเวรแต่ทำไมถึงได้มีเงินโอนเข้ามายังบัญชีของตน พอไปเช็คก็มีเงินเข้ามาจริงๆ 4,080 บาท ในหมายเลขบัญชี 020018227124 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.)สาขาท่าอุเทน ชื่อบัญชีนายไพศาล แก้วมูลมุข เมื่อวันที่ 16 ส.ค.โดยโอนมาจาก อบต.พนอม ทำให้ตนไม่สบายใจเกรงจะไปมีส่วนรู้เห็นกับการกระทำผิดโกงเงินหลวง” นายไพศาล กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข่าวการทุจริตเบิกจ่ายเป็นเท็จในทีมกู้ชีพกู้ภัย เกิดขึ้นมาเป็นปีๆมีทั้งนักการเมืองท้องถิ่นและข้าราชการบางคนพัวพัน วิธีฉ้อโกงจะมีการให้เซ็นชื่อลงในกระดาษเปล่า หัวหน้าจะเป็นคนลงรายละเอียดเองทั้งหมด สมมุติมีชื่อนาย ก. เข้าเวร แต่นาย ก.อาจติดภาระกิจ หัวหน้าจะลงชื่อให้ นาย ข.เป็นคนเข้าเวรแทน แต่ปรากฎว่า นาย ข.ไม่ได้เข้าเวรจริง มีแต่รายชื่อเท่านั้นที่เข้าเวร ถึงเวลาจ่ายเงินก็จะเข้าบัญชีของผู้นั้น ซึ่งพวกคนงานที่เข้าเวรกู้ชีพต่างรู้กันดี หากเกิดกรณีเช่นนี้ก็จะไปกดเงินมาให้ผู้บริหาร ทำกันเป็นกลุ่มๆไม่เปิดเผยให้ใครรู้หรือแพร่งพรายออกไป เหตุที่เกิดเป็นข่าวน่าจะเกิดจากการขาดแคลนคนงานใน อบต.พนอม ผู้ที่มีอำนาจจึงจับชื่อของนายไพศาลหรือฝ้ายเข้าเวร แต่บังเอิญนายไพศาลลาออกพอดีจึงเกิดเรื่องแดงขึ้นมา ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวติดต่อทางโทรศัพท์ถึง นายปั่น ดงกันหา นายก อบต.พนอม สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น มีคำตอบสั้นๆว่ายังไม่ทราบเรื่อง และตนไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรทั้งสิ้น ต่อมาได้ติดต่อสอบถาม นางนิลุบล ผาลี ปลัด อบต.พนอม ก็บอกว่าไม่ทราบเรื่องแต่อย่างใด และจะตั้งกรรมการสอบสวนนายไพศาล ข้อหาหนีเวรราชการ ผิดวินัยร้ายแรง อ้างว่าภรรยาไม่สามารถมาเซ็นใบลาออกแทนได้