เมื่อเวลา 12 .00 น.วันที่ 5 ธ.ค.63 ที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเขต3(กระบี่) นายสิทธิพล เมืองสง ผู้อำนวยการศูนย์ฯพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่พนักงานประมงปฏิบัติงานฯ ได้ควบคุมตัวนายอรรถพล สิงห์โตร์ อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 29/1 ม. 2 ต.แหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ และ นายบรรเจิด เนียมสุระ อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 61 ม. 6 ต.กะเฉด อ.เมือง จ.ระยอง พร้อมพร้อมกับได้ยึดของกลาง เรือหัวโทง ชื่อ ป.ลูกโทง จำนวน 1 ลำ พร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ จำนวน 1 เครื่อง เครื่องมือประมงประเภทโป๊ะ จำนวน 1 ปาก สัตว์น้ำเบญจพรรณขนาดเล็ก ประมาณ 10 กิโลกรัม ดำเนินคดี ข้อหา ใช้เครื่องมือประมงประเภทโป๊ะทำการประมงในที่หวงห้าม จับสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดกระบี่ มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกการจับกุมและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาทาง นายสิทธิพล ได้กล่าวว่า เมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา ทางเจาหน้าที่ศูนย์ฯได้ออกปฏิบัติงานตรวจตราเฝ้าระวังการทำประมงผิดกฎหมายในเขตพื้นที่รับผิดชอบเมื่อไปถึงบริเวณชายฝั่งทะเลบ้านบากัน ม. 2 ต.อ่าวลึกน้อย อ.อ่าวลึก พบผู้ต้องหาทั้งสองกำลังลักลอบใช้เครื่องมือทำการประมงผิดกฎหมาย (โป๊ะ)จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม ได้พร้อมของกลาง ซึ่งโป๊ะเป็นเครื่องมือทำลายล้างสัตว์น้ำทุกชนิดสามารถจับสัตว์ทะเลขนาดเล็กทุกชนิด หรือแม้กระทั้งพะยูน ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยเจอมาแล้ว จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ชาวประมงที่คิดจะทำประมงผิดกฎหมายขอให้เลิกเสียเนื่องจาก
มีความผิดตามพระราชกำหนดการประมง มีโทษทั้งจำคุกและปรับ โดยโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท โทษค่อนข้างจะรุนแรง
นายสิทธิพล กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาทางกรมประมงได้มีมาตรการประกาศปิดอ่าวประกอบกับจังหวัดกระบี่มีประกาศห้าม ทำการประมงด้วยเครื่องมือประเภทโป๊ะในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ทำให้สัตว์ทะเลทุกชนิดในพื้นที่จังหวัดกระบี่มีความสมบูรณ์ค่อนข้างมาก ทางศูนย์ฯจะกวดขันจับกุมการกระทำประมงผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด
ต่อมาทาง นายสิทธิพล ได้กล่าวว่า เมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา ทางเจาหน้าที่ศูนย์ฯได้ออกปฏิบัติงานตรวจตราเฝ้าระวังการทำประมงผิดกฎหมายในเขตพื้นที่รับผิดชอบเมื่อไปถึงบริเวณชายฝั่งทะเลบ้านบากัน ม. 2 ต.อ่าวลึกน้อย อ.อ่าวลึก พบผู้ต้องหาทั้งสองกำลังลักลอบใช้เครื่องมือทำการประมงผิดกฎหมาย (โป๊ะ)จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม ได้พร้อมของกลาง ซึ่งโป๊ะเป็นเครื่องมือทำลายล้างสัตว์น้ำทุกชนิดสามารถจับสัตว์ทะเลขนาดเล็กทุกชนิด หรือแม้กระทั้งพะยูน ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยเจอมาแล้ว จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ชาวประมงที่คิดจะทำประมงผิดกฎหมายขอให้เลิกเสียเนื่องจาก
มีความผิดตามพระราชกำหนดการประมง มีโทษทั้งจำคุกและปรับ โดยโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท โทษค่อนข้างจะรุนแรง
นายสิทธิพล กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาทางกรมประมงได้มีมาตรการประกาศปิดอ่าวประกอบกับจังหวัดกระบี่มีประกาศห้าม ทำการประมงด้วยเครื่องมือประเภทโป๊ะในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ทำให้สัตว์ทะเลทุกชนิดในพื้นที่จังหวัดกระบี่มีความสมบูรณ์ค่อนข้างมาก ทางศูนย์ฯจะกวดขันจับกุมการกระทำประมงผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด