นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยฯ ม.รังสิต เปิดเผยว่า การร่วมมือของเครือ SCG ผ่านสยามไบโอไซเอนซ์ในผลิตวัคซีนกับ AstraZeneca (บริษัทยาสัญชาติอังกฤษ-สวีเดน) และมหาวิทยาลัย Oxford แม้อาจจะล่าช้าแต่นับเป็นตัดสินใจที่ถูกต้อง และ เป็นเรื่องที่ดีสำหรับคนไทย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ไทยไม่เคยลงนามกับริษัทยารายใหญ่ของโลกที่กำลังเร่งการวิจัยวัคซีน Covid-19 แม้แต่รายเดียว โดยประชาชนชาวไทยน่าจะเริ่มต้นได้รับวัคซีนตั้งแต่กลางปีหน้า และระบบสาธารณสุขไทยต้องเตรียมการเพื่อให้คนไทยได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงภายในไตรมาสแรกปีหน้า รัฐบาลต้องทำให้ชาวไทยสามารถเข้าถึงยาได้อย่างมีคุณภาพ ราคาถูก ทั่วถึง สร้างความมั่นคงทางยาให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ทั้งนี้แม้ยาของ Astrazeneca จะเคยถูกหยุดไม่ให้ทดลองชั่วคราวในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีอาการป่วยจากการใช้ยาโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ล่าสุดผลการทดลองออกมาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และผลล่าสุดมีประสิทธิผลถึง 70% คาดว่าปลายปีนี้น่าจะถึงระดับมากกว่า 90% อย่างแน่นอน หากสามารถดำเนินการเช่นนั้นได้ เราจะสามารถเปิดประเทศได้อย่างเต็มที่ในช่วงไตรมาสสามปีหน้า ทำให้เศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวมีสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจน สำหรับประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการเป็นฐานผลิตวัคซีนเพื่อป้องกันโรค covid-19 และรักษาโรคอุบัติใหม่ในอนาคต และไทยมีความพร้อมในการเป็นฐานการผลิตวัคซีนเพื่อการส่งออกไปยังอาเซียนอีกด้วย การดำเนินการกระจายวัคซีนและทำให้ประเทศเพื่อนบ้านเข้าถึงวัคซีนมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยและความมั่นคงทางด้านสาธารณสุขของไทย โดยการเดินหน้าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และการบริการสาธารณสุข ต้องอาศัยยุทธศาสตร์และลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในอุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ การบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข เป็นเรื่องที่ควรเป็นนโยบายเร่งด่วนอันดันแรกๆ และควรจัดสรรงบประมาณเงินกู้มาลงทุนทางด้านนี้เพิ่มเติมโดยตัดจากงบประมาณส่วนอื่นที่ไม่มีความจำเป็นและไม่ก่อให้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดในการใช้เม็ดเงินงบประมาณซึ่งจะมีอยู่อย่างจำกัดมากขึ้นเรื่อยๆ "ควรเดินหน้าสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพและบริการทางการแพทย์ผ่านมาตรการการคลังและมาตรการการเงินอย่างเต็มที่ เป็นโอกาสที่ดีของเศรษฐกิจไทยโดยรวม โดยเฉพาะควรให้ความสำคัญและลงทุนวิจัยทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพและอุตสาหกรรมยา ซึ่งประเทศไทยมีความได้เปรียบทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพจำเป็นต้องมีระบบทรัพย์สินทางปัญญาที่เหมาะสมโดยไม่เดินตามเกมทางการค้าว่าด้วยมาตรฐานทางด้านทรัพย์สินทางปัญญาอย่างไม่รู้เท่าทันในเวทีข้อตกลงการเปิดเสรีต่างๆ"