เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 63 กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง พ่อค้าแม่ค้าว่าไง...การขายในโครงการคนละครึ่ง โดยเก็บข้อมูลจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ พบว่า ร้านค้าที่ตอบแบบสอบถามมากที่สุดคือ ร้านอาหารทั่วไป คิดเป็นร้อยละ 44.3 รองลงมาคือร้านสะดวกซื้อ คิดเป็นร้อยละ 10.0 และร้านขายเครื่องดื่มและร้านขายเสื้อผ้ามีร้อยละ 9.7 เท่ากัน และเมื่อถามว่า โครงการคนละครึ่งช่วยทำให้ยอดขายเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่ร้อยละ 88.3 เห็นว่าช่วยทำให้ขายได้เพิ่มขึ้น (โดยในภาพรวมยอดขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 30.2) ส่วนร้อยละ 11.2 เห็นว่าขายได้เท่าเดิม และร้อยละ 0.5 เห็นว่าขายได้ลดลง (โดยในภาพรวมยอดขายลดลงเฉลี่ยร้อยละ 7.1) ส่วนความเห็นต่อโครงการคนละครึ่งมีผลอย่างไรบ้าง นอกเหนือจากการกระตุ้นยอดขาย ส่วนใหญ่ร้อยละ 68.0 เห็นว่าทำให้เข้าถึงเทคโนโลยีมากขึ้น รองลงมาร้อยละ 61.2 เห็นว่าทำให้สะดวก รวดเร็วเวลาจ่ายเงิน และร้อยละ 57.3 เห็นว่าทำให้ใช้แอปพลิเคชันโอน-ถอนเงินเป็น ส่วนความเห็นต่อภาพรวมโครงการคนละครึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประเทศได้มากน้อยเพียงใด ส่วนใหญ่ร้อยละ 63.5 เห็นว่าช่วยได้ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ส่วนร้อยละ 35.8 เห็นว่าช่วยได้ระดับปานกลาง ขณะที่มีเพียงร้อยละ 0.7 เห็นว่าช่วยได้ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด. ซึ่ง นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันโครงการคนละครึ่งเตรียมเปิดเฟส 2 อย่างแน่นอน หลังได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน เนื่องจากสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ใช้สิทธิ์ได้อย่างเป็นรูปธรรม กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยได้อย่างชัดเจน และช่วยเหลือผู้ค้ารายย่อย หาบเร่แผงลอย พ่อค้าแม่ค้ารายเล็กได้อย่างแท้จริง ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้ ถือเป็นความสำเร็จของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีเงินหมุนเวียนในระบบจากการใช้จ่ายของประชาชน และเป็นการเรียนรู้ระบบเทคโนโลยีการใช้แอปพลิเคชันไปในตัวด้วย โดยได้รับรายงานว่า ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 8.5 แสนร้านค้า มียอดการใช้จ่ายสะสม 28,609 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 14,599 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 14,010 ล้านบาท และเนื่องจากผู้ซื้อและผู้ขายมีความคุ้นเคยกับการใช้งานแอปพลิเคชันดังกล่าวมากขึ้นเรื่อยๆ และเข้าใจวิธีการใช้งานว่าใช้ได้ไม่ยากอย่างที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นกังวล จึงทำให้มั่นใจว่าโครงการคนละครึ่งเฟส 2 จะได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนอย่างต่อเนื่อง