หลังจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดราชบุรี ได้ประกาศเลือกตั้งผู้สมัครสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 20 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ทำให้หลายคนต่างไปว่าจ้างระดมทีมงานทำป้ายหาเสียง ไปติดตามสถานที่ต่าง ๆ ตามที่ กกต.ได้กำหนดไว้กันอย่างคึกคัก มีทั้งแบบเรียบหรูดูสวยงามกับสีสันของแต่ละทีมได้คัดเลือก เพื่อให้เกิดความโดดเด่น ชูแนวคิดโดนใจประชาชน               แต่สำหรับ นายจำนอง บุญเลิศฟ้า หรือ กำนันเมี่ยง อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 10 ต.บ้านคา อ.บ้านคา จ.ราชบุรี  เป็นผู้สมัคร ส.อบจ. เบอร์ 4  ลงในนามอิสระ  ได้มีแนวคิดแปลกไม่เหมือนใคร คิดว่าน่าจะเป็นผู้สมัครคนเดียวที่ใช้เงินทุนในการลงสมัครครั้งนี้น้อยที่สุดในจังหวัด หรือในประเทศก็ว่าได้ เพราะผู้สมัครรายนี้ได้ชวนหลานชาย ไปตัดไม้กระถินที่ขึ้นอยู่ข้างบ้านนำมาทำเป็นโครงป้าย นำตะปูมาตอกให้เข้ารูป 4 เหลี่ยม จากนั้นนำกระสอบข้าวสารที่ผ่านการใช้แล้ว ซื้อมาในราคาใบละ 3 บาท  นำมาประยุกต์ทำป้ายหาเสียงแบบง่าย ๆ โดยที่ใช้กระดาษวาดกรอบหมายเลขวางทาบลงบนกระสอบ ใช้สีแดงฉีดพ่นตามกรอบหมายเลข 4 พร้อมแนวนโยบายทั้ง 2 ด้าน จนเต็มกรอบแล้วจึงยกออก นำไปสวมใส่ในโครงไม้  เพื่อนำไปติดเป็นป้ายผู้สมัครหาเสียงข้างทาง  ป้ายที่ติดตั้งแล้วสามารถเห็นได้ทั้ง 2 ด้าน มีความแตกต่างจากป้ายหาเสียงของผู้สมัครทุกคนที่จะมีเพียงด้านเดียว อีกทั้งค่าทำป้ายของคนอื่น ๆ แต่ละป้ายใช้งบประมาณการจ้างทำป้ายละกว่า 300 บาท           แต่สำหรับของกำนันเมี่ยงราคาต้นทุนเพียงป้ายละ  5 บาท หรือ ไม่เกิน 10 บาทเท่านั้น  ด้านล่างของป้ายยังได้เขียนชูแนวคิดให้ อ.บ้านคา เป็นเมืองท่องเที่ยวและส่งเสริมการเกษตรอย่างจริงจัง สอบถามการลงทุนทำป้ายแล้วทราบว่า เสาไม้กระถินข้างบ้านก็ไม่ต้องซื้อ คงซื้อแต่สีกระป๋องนำมาพ่น ตะปูตอกไม้ และกระสอบใส่ข้าวสารลูกละ 3 บาท จำนวน 80 ป้าย คิดเป็นเงินลงทุนไม่เกิน 500 บาท และมีป้ายใหญ่จำนวน 20 ป้ายเท่านั้น               นายจำนอง บุญเลิศฟ้า หาเสียงในเขตเลือกตั้ง 3 ตำบล ได้แก่ ต.บ้านบึง ต.บ้านคา ต.หนองพันจันทร์ รวม 40 หมู่บ้าน มีนโยบายอยากส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกผักกางมุ้ง ปลูกองุ่น เสาวรส อโวคาโด้ ปลอดภัยจากสารเคมี เพื่อแก้ไขปัญหาปากท้องของชาวบ้านในพื้นที่ และอยากส่งเสริมการท่องเที่ยวของ อ.บ้านคา ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้น  รวมทั้งการส่งเสริมกีฬาเยาวชนที่มีทักษะดีก็จะมีคนมาจ้างไปเล่น ถือเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่เยาวชนในท้องถิ่นด้วย ++++++