เมื่อวันที่ 28 พ.ย.63 นายวราวุธ​ ศิลปอาชา​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​  (รมว.ทส.)​  พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง​ฯ​ ลงพื้นที่​ ณ ขุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล​ เพื่อติดตามการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเลในพื้นที่ผืนสุดท้ายที่ชนะคดีความ​ พร้อมทั้งเยี่ยมชมชุมชนกลุ่มบ้านปาดัก​ และรับฟังปัญหาข้อคิดเห็น​ ข้อเสนอแนะ​ ของพี่น้องชาวเลกรณีที่ดิน​ สค  1 เลขที่​ 11​ ออกเอกสารสิทธิเกินพื้นที่มากกว่า​ 30​ ไร่​ ทับซ้อนพื้นที่ชุมชนชาวเล​ 125​ ครอบครัว​  ซึ่งปัจจุบันไม่มีสิทธิในการซ่อมแซมและปรับปรุงบ้าน​ จากนั้นร่วมสักการะบรรพบุรุษโต๊ะฆีรี​ และฟังข้อเสนอแนวทางการใช้พื้นที่สุสานเป็นพื้นที่สาธารณะ​ ตลอดจนร่วมพิธี​ "ปูญาลาโว้ย" สู่เขตคุ้มครองทางวัฒนธรรม​  โดยขบวนเรือได้แห่เรือเข้าฝั่ง​ และ​ รมว.ทส. ได้ทำการผูกผ้าหัวเรือ  นอกจากนี้เป็นประธานเปิดงานรวมญาติชาติพันธุ์ชาวเล​ ครั้งที่​ 11​ และเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือ​ "ส่งเสริมและคุ้มครองวิถีชีวิตวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธ์" ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ สถาบันวิจัยสังคม​ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย​ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน​ (องค์การมหาชน)​ ศูนย์มานุษยาสิรินธร​ (องค์การมหาขน)​ มูลนิธิชุมชนไท​ มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ​ เครือข่ายชาวเล​ และเครือข่ายกะเหรี่ยง​  อีกด้วย โดยโอกาสนี้​ รมว.​ทส.  ได้ขอบคุณและขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลเกาะหลีเป๊ะทุกกลุ่ม​ ซึ่งวันนี้ได้ลงมารับทราบปัญหาต่างๆ​ ของพี่น้อง​ ที่เกิดความยากลำบากในการทำมาหากิน​  โดยรัฐบาลได้ให้ความสำคัญและมีความห่วงใยในการแก้ไขปัญหา​ เนื่องจากปัญหามีความสลับซับซ้อน​  มีความเกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน​ และสะสมมานาน​ ฉะนั้น​ ในการแก้ไขปัญหาจะทำทีเดียวไม่ได้​ โดยในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ จะเป็นกลไกลสำคัญที่จะผลักดันในการแก้ไขปัญหา​ทั้งในเรื่องที่ดินทำกิน​ ซึ่งหน้าที่ของกระทรวงฯ​ จะทำอย่างไรที่จะดูแล​ รักษา​ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของแผ่นดินไทยให้คงอยู่ควบคู่ไปกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง​ๆ​ และประชาชนอย่างยั่งยืนสืบไป​ อีกทั้งจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง​ เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาให้พี่น้องชาวเลและกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ​ ให้สามารถดำรงชีวิตและอาศัยในแผ่นดินเกิดอันเป็นที่รักของตนได้​  ทั้ง​นี้​  รมว.ทส.  กล่าวเพิ่มเติมว่า​ วิธีการที่เราจะรักและหวงแหนแผ่นดินแห่งนี้​ ที่ดีที่สุด​ คือ​ การอนุรักษ์และรักษาวิถีชีวิตชาวเลในดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์และจิตวิญญานรักและหวงแหนในแผ่นดินแห่งนี้​ โดยเริ่มต้นที่ตัวเรา​ จาก​ 1 ตารางเมตร​ที่เรายืน​ เห็นขยะที่ไหน​ เก็บที่นั่น​ เห็นความไม่สวยงาม​ ความไม่ถูกต้อง​ ​ให้ช่วยกัน​ +++++++++