วันที่ 27 พ.ย.63 ที่บริเวณซอยพระบารมี 7 ต. กะทู้ อ. กะทู้ จ. ภูเก็ต นายบุญลาภ สุกใส ผู้อำนวยการสำนักการจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ พร้อมด้วยนายศุภชัย สุกใส ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) ร.ต.อ. นิพล เต็มรัตน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) เจ้าหน้าที่จากสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดภูเก็ต (สปก.ภูเก็ต) และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ภก 2 (ภูเก็ต) ร่วมกันตรวจสอบปราบปรามการกระทำผิดกฏหมาย ตามที่ได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีการบุกรุกป่า เส้นทางซอยพระบารมี 7 ท้องที่ ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต นายบุญลาภ สุกใส ผู้อำนวยการสำนักการจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้หลายหน่วยงานได้มีการบูรณาการทำงานร่วมกันหลังจากที่ได้มีการ้องเรียนในเรื่องของการทำลายทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยได้มีการลงพื้นที่ไปตรวจสอบและได้มีการขยายผลการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนโดยได้มีการตรวจยึดพื้นที่ที่มีการกระทำผิดกฏหมาย โดยเมื่อสองวันที่ผ่านมาได้มีการตรวจลาดตระเวนเข้าไปในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเทือกเขากมลา พบพื้นที่ถูกแผ้วถางเป็นบริเวณกว้าง และจากการตรวจสอบระวางแผนที่ก็พบว่าบางส่วนอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติจึงได้มีการจับกุมดำเนินคดีซึ่ง เป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายป่าไม้ ตาม พรบ.ป่าไม้พุทธศักราช 2484 และกระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 สำหรับในวันนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการเดินสำรวจในพื้นที่ต่อเนื่องพบว่ามีการตัดไม้และมีการแปรรูปไม้ในพื้นที่สปก.ซึ่งมีร่องรอยของการการตัดโค่นไม้ขนาดต่างๆและมีการแปรรูปไม้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นไม้ตะเคียนมี ปริมาตรจำนวน 1.49 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าความเสียหายประมาณ 60,000 บาท โดยพบว่าไม้แปรรูปซุกซ่อนอยู่ตามชายป่า จึงได้มีการตรวจยึดไม้จำนวนดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีการตรวจพื้นที่บริเวณใกล้เคียงเบื้องต้นพบว่ามีการโค่นต้นไม้อีกเป็นจำนวนมากหลากหลายชนิดและมีการนำไม้ที่โค่นมาแปรรูป ซึ่งไม้ที่โค่นอยู่ในเขต สปก.4 – 01 ที่มีการปรับพื้นที่ เพื่อนำผลเอาต้นผลไม้ต่างๆมาปลูก หรือไม่ก็ปลูกต้นยางพารา อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดไม้ที่แปรรูปทั้งหมดเป็นของกลาง พร้อมเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.ป่าตอง เพื่อเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดและบุคคลที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป