นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ร่วมประชุมคณะกรรมาธิการร่วมความตกลงความเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ไทย-นิวซีแลนด์ (TNZCEP JC) ครั้งที่ 10 ผ่านระบบประชุมทางไกล เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมี Mr. Keawe Woodmore (Manager, FTA Implementation Unit Trade Negotiations Division) กระทรวงการต่างประเทศและการค้าของนิวซีแลนด์เป็นหัวหน้าคณะ เพื่อติดตามการดำเนินการตามข้อผูกพันการเปิดเสรีทางการค้า ตลอดจนแนวทางการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างกัน โดยการประชุมครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายได้หารือเพื่อติดตามการดำเนินงานและใช้ประโยชน์จากความตกลง FTA ที่ไทยทำกับนิวซีแลนด์ ตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งมีส่วนสำคัญทำให้การค้าระหว่างไทย-นิวซีแลนด์เพิ่มขึ้นเป็น 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2562 หรือเกือบ 3 เท่า รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนข้อมูลความคืบหน้าการจัดทำความตกลงการค้าเสรีกับคู่ค้าสำคัญอาทิ สหภาพยุโรป (EU) และสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) และติดตามการแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างกันเช่น การส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงจากไทย ซึ่งปัจจุบันสามารถส่งออกไปยังนิวซีแลนด์ได้แล้ว ขณะเดียวกันยังมองเห็นช่องทางความร่วมมือในด้านที่ทั้งสองฝ่ายสนใจร่วมกันและสามารถดำเนินการได้ในอนาคตเช่น การศึกษา การท่องเที่ยว นวัตกรรมอาหาร และเทคโนโลยีการเกษตรขั้นสูง เป็นต้น ทั้งสองฝ่ายยังได้ตกลงที่จะร่วมมือกันพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันของผู้ประกอบการ SMEs และความร่วมมือเพื่อพัฒนาการยกระดับสินค้าเกษตรอินทรีย์ ทั้งนี้ฝ่ายไทยยังได้เชิญชวนให้นิวซีแลนด์เข้ามาร่วมลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการเกษตรสมัยใหม่ และการศึกษาในสาขาวิชาต่างๆ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายของ EEC นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสของนักลงทุนต่างชาติที่จะมุ่งเน้นการลงทุนในสาขานวัตกรรมอาหารและบริการสุขภาพ ซึ่งกำลังมีความต้องการสูงในตลาดโลก ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 โดยตั้งแต่เดือน ม.ค.-ต.ค.63 การค้าระหว่างไทย-นิวซีแลนด์ มีมูลค่าราว 1,558.28 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปนิวซีแลนด์ มูลค่า 970.11 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากนิวซีแลนด์ มูลค่า 588.17 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าราว 381.94 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าออกสำคัญไปยังนิวซีแลนด์เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศติดผนัง ปลาทูน่าปรุงแต่ง และแผ่นและแถบอลูมิเนียม เป็นต้น สำหรับสินค้านำเข้าสำคัญ เช่น นมและผลิตภัณฑ์นม กระดาษและกระดาษแข็ง เนยและไขมัน แอปเปิ้ล มอลต์สกัด บัตเตอร์มิลค์ เนื้อวัวแช่แข็งไม่มีกระดูก เยื่อจากใยกระดาษที่นำกลับมาใช้อีก และไม้สน เป็นต้น