เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังตลาดดอยมูเซอเก่า ต.บ้านด่านแม่ละเมา อ.แม่สอด จ.ตาก ภายหลังทราบข่าวว่า หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เตรียมไล่ที่รื้อแผงค้าจำนวน 13 แผงซึ่งเป็นของคนไทยรุ่นบุกเบิกตั้งแต่ปี 2521 ในข้อหารุกที่อุทยานฯ แม้ว่าอุทยานแห่งชาติเพิ่งก่อตั้งเมือปี 2524 โดยมีกำหนดให้ผู้ค้าทั้ง 13 แผงต้องออกไปภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 หากดื้อแพ่งทางอุทยานฯจะเข้ามารื้อเองโดยติดประกาศให้เห็นอย่างเด่นชัด ขณะที่นักท่องที่ที่มาจับจ่ายซื้อของยังทราบว่าทางการรังแกประชาชนที่ทำมาหากินโดยสุจริต เขาอยู่มาดั้งเดิมมาไล่ที่เขาแล้วเขาจะไปอยู่ที่ไหน นางม่วย ยอดกัน อายุ 52 ปี แม่ค้าบอกว่าทำมาหากินที่นี่มานาน ตอนนี้มาติดป้ายให้เรารื้อร้าน 30 พ.ย.ให้รื้อทั้ง 13 แผง ไล่คนไทยออกจะเอามูเซอท้องที่อื่นมาอยู่ เราเคยคาเคยขายที่นี่จะให้เราทำยังไง อายุมาแล้วจะไปทำงานรับจ้างก็ไม่ไหวแล้ว เมื่อคืนร้านเจ้อ้วนเจอคำสั่งทนไม่ไหวแขวนคอตายเพราะความอัดอั้นตันใจ โชคดีเชือกขาดเสียก่อน นางศิริพร นิตย์ใหม่ หรือเจ๊อ้วน อายุ 59 ปี ขู่ว่าหากมารื้อร้านไล่ที่จะไลฟ์สดแขวนคอตายให้ดู หลังจากเมื่อคืนแขวนคอไปครั้งหนึ่งแล้ว โดยเจ้อ้วนระบายความในใจว่า “ที่ที่เราเคยอยู่เคยนอนที่นี่ เรามาขายเป็นเวลากว่า 40 ปี เรามาตามนโยบายรัฐบาล อยู่ๆก็มีข้อหามาให้เราว่ารุกป่าให้เราไปขึ้นศาลบอกให้เรารับสารภาพแล้วจะให้อยู่เหมือนเดิม ไปๆมามาจะเอาคนอื่นเข้ามาแย่งที่เราเราเป็นคนไทยเหมือนกันไม่ให้ความยุติธรรมเรา จะมารื้อร้านเราอีก หลอกให้เรารื้อร้านไปครั้งหนึ่งแล้วยังมีข้อหาตามมาอีก อย่างนี้ต้องตายอย่างเดียว ลูกหลานก็ยังเรียนอยู่มีค่าใช้จ่ายทุกวันจะไปเอาที่ไหน ขอความเมตตาจากนายขอให้ช่วยพวกเราด้วย พวกเราจะตายอยู่แล้ว ขอนายกประยุทธช่วยด้วยพวกเราจะย่แล้ว แม่ค้าแย่กันทุกคนไม่ใช่ร่ำรวยต่อสู่กันมากว่า 10 ปี สุดท้ายก็เป็นแบบนี้ หลอกให้รับสารภาพ นึกว่าจะให้อยู่เหมือนเดิม แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เขาหลอกพวกเรา พวกเราคนแก่ไม่รู้กฎหมายมีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น หาเช้ากินค่ำ ยิ่งเจอโควิดขายของแทบไม่ได้ วันละร้อยก็ยังสู้ แล้วมาไล่เราอีก” ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้อ้วนพาไปดูจุดที่จะไลฟ์สดแขวนคอตาย โดยมัดเชือกกับขื่อเหล็กเตรียมพร้อมไว้แล้ว รื้อร้านเมื่อไหร่จะแขวนคอตายไลฟ์สดทันที รวมทั้งบอกผู้สื่อข่าวมาทำข่าวด้วยว่าข้าราชการรังแกคนหาเช้ากินค่ำ