เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ จ.ร้อยเอ็ด นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เดินทางรณรงค์ช่วยหาเสียงให้กับ นายสถาพร ว่องสัธนพงษ์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ร้อยเอ็ด เบอร์ 2 ในนามคณะก้าวหน้า โดยเริ่มต้นด้วยการเดินทางไปดูโครงการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งกลุ่มชาวบ้านข่อย ต.หนองหิน อ.เมืองสรวง จัดทำโครงการจนประสบความสำเร็จขุดเจาะได้หลายบ่อ แต่ทว่าก็ยังมีคงมีน้ำไม่เพียงพอใช้ทั่วไป โดยอยากให้ อบจ.ร้อยเอ็ดร่วมออกแบบและผลักดันโครงการนี้ เพื่อให้เกษตรกรทั้งจังหวัดมีน้ำใช้ทำการเกษตรในหน้าแล้งอย่างเพียงพอ เสร็จแล้วเดินทางไปต่อที่ อ.เมือง ขึ้นรถแห่ทั่วตัวเมือง ก่อนจะไปแถลงข่าวที่โรงแรมธนินธร ปาร์ค เพื่อเปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ. และ สมาชิกสภา อบจ. ทั้ง 35 เขต ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดตัวอย่างพร้อมเพรียง นายปิยบุตร กล่าวว่า ตั้งแต่ครั้งเป็นพรรคอนาคตใหม่ เรามีนโยบบายชูธงคือ ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ คืนอำนาจให้ท้องถิ่น ด้วยมีความเชื่อว่า ถ้ารวมอำนาจอยู่ส่วนกลาง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ โครงการที่พี่น้องประชาอยากได้เขาจะไม่ทำให้ ขณะที่โครงการที่พี่น้องประชาชนไม่อยากได้เขากลับมาทำให้ จนเกิดปัญหาข้อพิพาทต่างๆ บางโครงการก็ปล่อยทิ้งร้างไม่ได้ใช้ประโยชน์ นั่นเพราะอำนาจไม่ได้อยู่กับพี่น้องประชาชน ไม่ได้อยู่กับท้องถิ่น ดังนั้น เพื่อสนับสนุนเรื่องการยุติรัฐราชการรวมศูนย์ คืนอำนาจให้ท้องถิ่น แม้พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไปแล้ว เราในนามคณะก้าวหน้าก็ต้องสานต่อเรื่องนี้ จึงต้องการส่งเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นทุกระดับทั่วประเทศ โดยในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ จะมีการเลือกตั้งในระดับ อบจ. และต่อไปก็คงจะเป็นระดับเทศบาล และระดับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ซึ่งรับรองได้เลยว่าพ่อแม่พี่น้องประชาชนจะได้เห็นตนเอง รวมถึงนายธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เดินทางไปช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครในนามคณะก้าวหน้าทั่วประเทศ และจะสานต่อเรื่องกระจายอำนาจให้สำเร็จให้ได้ "ที่ผ่านมา การเลือกตั้ง นายก อบจ. แข่งกันที่เรื่องบ้านใหญ่ เรื่องอิทธิพล ไม่เคยแข่งกันที่นโยบาย ครั้งนี้เราจึงทำการเมืองแบบใหม่ ที่จะทำให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนเลือกกันที่นโยบาย ซึ่ง อบจ.ร้อยเอ็ด มีงบประมาณ อบจ.อยู่ประมาณ 1,089 ล้านบาท อยู่ในตำแหน่ง 4 ปีตกอยู่ราว 4,400 ล้านบาท แต่เคยสงสัยไหมว่า ทำไมชีวิตพ่อแม่พี่น้องชาวร้อยเอ็ดยังเหมือนเดิม แล้วงบประมาณส่วนนีหายไปไหน เงินที่เก็บจากภาษีประชาชนเอาไปทำอะไรให้ชีวิตเราดีขึ้นบ้าง ดังนั้น ในการออกแบบนโยบายของคณะก้าวหน้า เราให้การบ้านผู้สมัครไปเปิดงบประมาณของแต่ละจังหวัด จากนั้นไปพื้นที่จริง เจอประชาชนจริง เจอสถานการณ์จริง เพื่อนำมากลั่นกรองออกแบบเป็นนโยบายว่าจะใช้เงินไปกับอะไรบ้าง แก้ปัญหาให้กับประชาชนชาวร้อยเอ็ดได้อย่างไร การแข่งขันกันที่นโยบายอย่างนี้ ก็เพื่อให้พี่น้องได้รู้ว่า ถ้าเลือกคุณสถาพรเป็นนายก อบจ.แล้ว ชาวร้อยเอ็ดจะได้อะไรบ้าง" นายปิยบุตร กล่าว นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า เราไม่มีการเลือกตั้งท้องถิ่นมาแล้วเกือบ10 ปี และในช่วงที่ผ่านมาการเมืองท้องถิ่นก็ยังเป็นแบบเดิม วนเวียนแบบเดิม ซึ่งถ้าวันที่ 20 ธันวาคมนี้พ่อแม่พี่น้องไปกาแบบเดิมเลือกแบบเดิมก็จะเป็นเหมือนเดิม แต่ถ้าพ่อแม่พี่น้องเห็นปัญหาว่าเป็นแบบเดิมๆ และอยากเปลี่ยนใหม่ ก็ต้องเลือกแบบใหม่ คือเลือกคุณสถาพร ผู้สมัครนายก อบจ.เบอร์ 2 ที่พร้อมจะเข้าไปทำงานได้ทันที เพราะเราเตรียมตัว ไปดูปัญหาในพื้นที่ตั้งแต่ครั้งเป็นพรรคอนาคตใหม่ ดังนั้น ขอความไว้ใจช่วยกันเลือกผู้สมัครคณะก้าวหน้ากันให้เยอะๆ เพราะจะได้ประโยชน์ 2 เด้ง คือ เด้งที่1 เปลี่ยนแปลง จ.ร้อยเอ็ด และเด้งที่ 2 สะท้อนความไม่พอใจของพี่น้องประชาชนต่อรัฐบาลชุดนี้ ด้าน นายสถาพร กล่าวว่า ที่ผ่านมาการจะได้เป็นนายก อบจ.นั้นต้องใช้เงินเยอะ เปรียบเหมือนนั่งเครื่องบินจากร้อยเอ็ดไปเชียงใหม่ ใครไม่มีเงินเยอะก็ไม่ได้ไป แต่แล้ววันหนึ่ง ตนก็มองเห็นเครื่องบินลำหนึ่งที่จะพาไปสู่เป้าหมายได้ นั่นคือพรรคอนาคตใหม่ ที่มีกัปตันชื่อธนาธร แต่แล้วพรรคอนาคตใหม่ก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบ เครื่องบินลำนั้นเสียไป กัปตันถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้ลงสนามการเมืองเป็นเวลา 10 ปี แต่อย่างไรก็ตาม คุณธนาธรบอกในวันที่มีการยุบพรรคอนาคตใหม่ว่า นี่ไม่ใช่เวลามาเสียน้ำตา แต่เป็นเวลานับ 1 ใหม่ และเครื่องบินลำใหม่ที่ชื่อคณะก้าวหน้า โดยกัปตันคนเดิมคือคุณธนาธรก็เกิดขึ้น และถามว่ามีเครื่องบินลำใหม่แล้ว น้ำมันจะเอามาจากไหน คณะก้าวหน้าพวกเราทุกคนก็ยืนยันตรงกันว่า น้ำมันของเราก็คือประชาชน นายใหญ่ของเราก็คือประชาชนที่พร้อมจะส่งให้ผู้สมัครนายก อบจ.ในนามคณะก้าวหน้าทุกคนได้ตำแหน่งนายก อบจ. และในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด มีตนเองลงสมัครนายก อบจ. และมี ส.อบจ. 35 เขต ขาดเพียง 1 เขตเท่านั้น "การเลือกตั้ง อบจ.และ ส.อบจ.ครั้งนี้ เราจะเอากระแสชนะกระสุน และชนะทุนด้วยนโยบาย โดยที่ กระแสชนะกระสุน นั่นคือ อารมณ์ของพี่น้องประชาชนที่ไม่พอใจการทำหน้าที่ของรัฐบาล กระแสที่พ่อแม่พี่น้องเห็นเยาชนนิสิตนักศึกษาประท้วงรัฐบาลแล้วอยากไปร่วมด้วย แต่ไกลไปไม่ได้ จึงจะใช้วันเลือกตั้ง 20 ธันวาคมนี้ จับปากกาฆ่าเผด็จการ ขณะที่ ชนะทุนด้วยนโยบาย นั่นคือ เราจะใช้นโยบายในการหาเสียง ไม่ว่าจะเป็น การศึกษา ขนส่งสาธารณะ การจัดการขยะ การมีส่วนร่วมของประชาชน และการเปิดเผยข้อมูลของ อบจ. ถ่ายทอดประชุมสภา อบจ.ให้ประชาชนได้ร่วมตรวจสอบ รวมถึงนโยบายสำคัญที่เราได้ไปดูมาแล้วเกี่ยวกับเรื่องน้ำ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำการเกษตร เราจะสนับสนุนการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับกลุ่มเกษตรกร ให้เกษตรกรมีน้ำใช้อย่างเพียงพอทั้งจังหวัด ที่ผ่านมา ผู้สมัครคนอื่นๆ อาจเรียกประชาชนเข้าไปหา แต่สำหรับผู้สมัครคณะก้าวหน้าเราเข้าไปหาประชาชน เพื่อฟังความต้องการ เพื่อจะได้ออกแบบนโยบายที่จะตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง" นายสถาพร กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเสร็จจากการเปิดตัวแล้ว ไปร่วมเดินตลาดรณรงค์หาเสียงต่อที่ตลาด อ.อาจสามารถ มีพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น กระทั่งเวลา 18.00 น. ขึ้นเวทีปราศรัยท่ามกลางประชาชนที่มารอฟังเนือนแน่นเต็มลานหน้าเวทีเยื้องกับตลาด โดยหลังจากปราศรัยเสร็จ นายปิยบุตรลงจากเวทีเข้าไปพูดคุยกับประชาชน ต่างมีคนเข้ามากอดและขอถ่ายรูปด้วย บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก ชื่นมื่นอย่างยิ่ง