นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า โครงการ DTN Business Plan Award 2020 "ชี้ช่องโอกาส บุกตลาดด้วย FTA" ซึ่งเป็นโครงการต่อยอดความสำเร็จของการดำเนินงานปีที่ผ่านมา โดยมุ่งเตรียมความพร้อมเกษตรกร และผู้ประกอบการสินค้าเกษตร อาหาร และเกษตรแปรรูป ให้ใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยทำกับประเทศต่างๆ สำหรับในปีนี้ เน้นการใช้ประโยชน์จาก FTA อาเซียน- อินเดีย ซึ่งอินเดียได้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอาหาร เกษตร และเกษตรแปรรูป ส่วนใหญ่ให้กับไทยแล้ว รวมทั้งสร้างความพร้อมให้ภาคการส่งออกของไทยขยายส่งออกไปอินเดีย และใช้เอฟทีเอเป็นเครื่องมือส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มีศักยภาพของไทย สู่ตลาดอินเดียได้เพิ่มขึ้น นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ภายในงานมีผู้รู้ชี้ช่องมองโอกาส เจาะตลาดอินเดีย อาทิ นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นางสาวจิตติมา นาคมโน ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง อดีตผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเจนไน ประเทศอินเดีย ผศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดอินเดีย จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดร.ชัยชาญ เจริญสุข กรรมการสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ผศ.ดร.อัครวิทย์ กาญจนโอภาษ ผู้อำนวยการเมืองนวัตกรรมอาหาร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ ดร.วิริยะ ลิขิตวงศ์ นายกสมาคมเครือข่ายที่ปรึกษาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม นอกจากนี้ กรมยังเปิดรับสมัครเกษตรกร และผู้ประกอบการสินค้าอาหาร เกษตร และเกษตรแปรรูป เข้ารับการคัดเลือกเพื่อร่วมกิจกรรม Boot Camp ระหว่างวันที่ 18 – 20 มกราคม 2564 ณ จังหวัดเพชรบุรี เพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ การทำกลยุทธ์และแผนธุรกิจเพื่อบุกตลาดอินเดีย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเจาะตลาดออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดอินเดีย และกิจกรรม Pitching เพื่อคัดเลือก 10 ทีม ที่ชนะการประกวดการนำเสนอแผนธุรกิจ ไปจับคู่ธุรกิจและสร้างเครือข่ายธุรกิจกับผู้ประกอบการของประเทศอินเดีย ในช่วงต้นปีหน้า สำหรับช่วง 10 เดือนแรกปี2563 อินเดียเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 12 ของไทย โดยไทยส่งออกไปอินเดียมูลค่า 4,391 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทย เช่น เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เหล็กและผลิตภัณฑ์ และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เป็นต้น ขณะที่ช่วง 8 เดือนแรกปี 2563 มีการขอใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าส่งออกไปอินเดีย มูลค่า 2,076 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 78.84% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ได้รับสิทธิ ส่วนปี 2562 มีการขอใช้สิทธิส่งออกไปอินเดีย มูลค่า 4,271 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 72.64% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ได้รับสิทธิ