นายณัฐกร อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษก กรมสรรพสามิตเปิดเผยถึงกรณีชาวไร่ยาสูบ ขอให้เร่งจ่ายเงินชดเชยและชะลอการขึ้นภาษียาสูบว่า นายประเสริฐ สงวนทรัพย์ รักษาการนายกสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เล่ย์ จ.สุโขทัย ขอความเป็นธรรมกรณีสมาคมชาวไร่ยาสูบฯ ได้ส่งหนังสือถึงรัฐบาล ให้ช่วยติดตามทวงถามเรื่องเงินชดเชยและ การชะลอการขึ้นภาษีบุหรี่ ซึ่งล่าสุด กมธ.การเงิน-การคลังฯ ได้มีหนังสือตอบกลับว่ากรมสรรพสามิตกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาอัตราภาษีที่เหมาะสมและเป็นธรรม ส่วนการจ่ายเงินชดเชยรายได้จากการที่เกษตรกรถูกลดโควตาฤดูกาลผลิตปี 2562/2563 นั้น กรมสรรพสามิต ได้ของบประมาณกลาง 159.59 ล้านบาท แต่ นรม.ให้ชะลอการจ่ายเงินดังกล่าวไว้ก่อน เนื่องจากภาครัฐมีโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 รายละ 15,000 บาทแล้ว และชาวไร่ยาสูบอยู่ในกลุ่มที่ได้รับความช่วยเหลือไปแล้ว หากมีความจำเป็นต้องได้รับการเยียวยาเพิ่ม การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.)ต้องทำเรื่องเสนออีกครั้ง โดยนายประเสริฐ เห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้ดูแลเกษตรกรอย่างเท่าเทียมกัน โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลอนุมัติโครงการช่วยเหลือชาวสวนลำไย ชาวไร่อ้อย ชาวไร่มันสำปะหลัง โดยใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก แต่เงินชดเชยโควตาของชาวไร่ยาสูบ ใช้งบประมาณเพียง 160 ล้านบาทและเป็นคนละส่วนกับเงินโควิด เหตุใดจึงจ่ายชาวไร่ยาสูบไม่ได้ และการที่ชาวไร่ยาสูบต้องขาดรายได้ไปกว่าครึ่งหนึ่งมาสามปีติดต่อกัน เป็นผลพวงมาจากความผิดพลาดของนโยบายรัฐบาลที่ขึ้นภาษีบุหรี่มากจนเกินไป นอกจากนี้ในเรื่องพืชทดแทนที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้เร่งหาก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงขอให้รัฐเร่งจ่ายเงินชดเชยที่ชาวไร่ยาสูบถูกลดโควตา และชะลอการขึ้นภาษียาสูบออกไป 2-3 ปีจนกว่าจะหาพืชทดแทนที่เหมาะสมได้ ทั้งนี้กรมสรรพสามิตขอชี้แจงดังนี้ 1.ตามที่นายประเสริฐ สงวนทรัพย์ เห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้ดูแลเกษตรกรอย่างเท่าเทียม โดยรัฐบาลได้มีโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกลำไย อ้อย และมันสำปะหลัง โดยใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก แต่เงินชดเชยโควตาของชาวไร่ยาสูบเพียง 160 ล้านบาท เหตุใดจึงจ่ายชาวไร่ยาสูบไม่ได้ โดยข้อชี้แจง ในอดีตที่ผ่านมารัฐบาลได้ชดเชยชาวไร่ยาสูบในฤดูการผลิต 2561/2562 กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพสามิตได้ขอจัดสรรงบกลางเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 133 ล้านบาท ซึ่งในฤดูกาลเพาะปลูก 2562/2563 กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาการชดเชยชาวไร่ยาสูบในฤดูกาลเพาะปลูกดังกล่าว แต่เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้มาตรการชดเชยดังกล่าวเกิดความล่าช้าออกไป และรัฐบาลได้มีการให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน คิดเป็นจำนวน 15,000 บาทต่อราย ดังนั้นกรมสรรพสามิตจึงอยู่ระหว่างการศึกษาหาข้อยุติในการปลูกพืชทดแทน และหาข้อสรุป ที่จะเสนอให้มีการเยียวยาต่อเกษตรกรต่อไปในอนาคตอันสั้นนี้ 2.นายกรัฐมนตรีให้เร่งหาพืชทดแทน แต่ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ข้อชี้แจง กรมสรรพสามิตจะมีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการส่งเสริมเกษตรให้เพาะปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนการปลูกยาสูบ ซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การยาสูบแห่งประเทศไทย เป็นต้น เข้าร่วมประชุมในวันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2563 ที่จะถึงนี้ เพื่อสรุปผลการหาพืชทดแทนการปลูกยาสูบอย่างเป็นรูปธรรม 3.ขอให้ชะลอการขึ้นภาษียาสูบออกไป 2-3 ปี จนกว่าจะหาพืชทดแทนที่เหมาะสมได้ ข้อชี้แจง ปัจจุบันกรมสรรพสามิตอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการปรับโครงสร้างภาษียาสูบให้สอดคล้องกับทิศทางการบริโภคยาสูบ และการพัฒนาอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมยาสูบ โดยจะต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศต่อไป