เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 25 พ.ย.2563 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ ผบก.ภ.จว.เลย เปิดเผยว่า ขณะนี้แนวทางการแก้ไขปัญหาให้กับข้าราชการตำรวจที่ได้รับผลกระทบจากสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย ที่จะมีการนำเสนอให้กับคณะกรรมการสหกรณ์ได้รับทราบและเป็นแนวทางการดำเนินงานเดียวกัน เพื่อสร้างขวัญ กำลังใจและให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดนั้นยิ้มได้และเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นแนวทางที่คณะกรรมการสหกรณ์ รวมไปถึงข้าราชการตำรวจภูธรจังหวัดเลยที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ จะดำเนินงานร่วมกันและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน 5 ยุทธศาสตร์หลักที่สำคัญที่เรียกกันว่ายา 5 เม็ด เริ่มจากการกำหนดกฎเกณฑ์สำหรับผู้กู้เงินรายใหม่ ที่จะต้องผ่านการตรวจคัดกรองจากระดับสถานีฯอย่างเข้มข้น มีแผนการชำระที่ชัดเจน ซึ่งเมื่อผ่านด่านนี้มาแล้วก็จะเข้าสู่กรรมการระดับจังหวัด ซึ่งยาเม็ดแรกนี้จะทำให้สหกรณ์ลดความเสี่ยงและลดภาระของผู้ต้ำประกัน ทั้งยังคงมีการทำประกันวงเงินในรูปแบบของสถาบันการเงินทั่วไปเพื่อลดความเสี่ยงในกลุ่มผู้กู้รายใหม่ ขณะที่ยาเม็ดที่ 2 คือการรีไฟแนนท์ คือข้าราชการตำรวจ ที่เป็นหนี้ทั้งหมด เอามารวมกันทั้งระบบ โดยสหกรณ์จะทำการตรวจสอบและตรวจคัดกรองอย่างละเอียดและเข้มข้น เพื่อให้เกิดการบริหารความเสี่ยงและการชำระหนี้ ซึ่งในข้อ 1 และ ข้อ 2 ข้าราชการตำรวจและครอบครัวจะตค้องรับรู้ร่วมกันเพราะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นและถึงเวลาต้องได้รับการแก้ไขปัญหา “ยาเม็ดที่ 3 คือการปรับโครงสร้างหนี้ และลดดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งประเด็นนี้มีการตรวจสอบสภาพคล่องของสหกรณ์ฯของเราแล้วพบว่าสามารถทำได้ ดังนั้นการลดอัตราดอกเบี้ย ยอดเงินกู้ ไม่เกิน 1,500,000 บาท จากเดิมร้อยละ 7.5 ให้เหลือร้อยละ 7 ซึ่งจะทำให้สมาชิกนั้นส่งงวดน้อยลงเหลือเพียงเดือนละ 1,150 บาท รวมทั้งการตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาให้กับข้าราชการตำรวจที่ต้องใช้เงินให้กับบุตร โดยสามารถกู้ไม่เกินรายละ 10,000 บาท โดยไม่มีดอกเบี้ยและให้ส่งเดือนละ 1,000 บาทนั้น ยาเม็ดที่ 4 คือการน้อมนำศาสตร์พระราชา โคก-หนอง-นา-โมเดล มาใช้ โยให้ข้าราชการตำรวจที่ประสบปัญหาและเข้าข่ายต้องพออยู่ พอกิน พอมี พอใช้ ให้มีอยู่ มีกิน อย่างพอเพียง เพราะ จ.เลย เป็นพื้นที่ด้านการเกษตรที่สวยงามและมีชื่อเสียงด้านการเกษตรดังนั้นหากตำรวจะมาจับจอบ จับเสียม อยู่อย่างพอเพียง ควบคู่ไปกับการทำงานประจำและบริการประชาชน เรื่องนี้เราต้องทำอย่างจริงจัง และสุดท้ายคือยาเม็ดที่ 5 คือสหกรณ์ตำรวจภูธรจังหวัดเลยจะต้องโปร่งใส ที่ผ่านมาผมไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่วันนี้ผมรับตำแหน่ง ผู้การฯ นั่งในตำแหน่งประธานสหกรณ์ฯ เราจะต้องทำและร่วมมือกันทุกฝ่าย เพื่อให้สหกรณ์ฯสั่งคง และโปร่งใส ซึ่งผมได้คุยกับตำรวจที่ประสบปัญหา ที่คาราคาซังมานาน ทั้งครอบครัวร้องไห้ต่อหน้าผมอย่างไม่อาย ผมในฐานะผู้นำจะต้องทำอย่างเต็มที่และสุดความสามารถ ซึ่งวันนี้ตำรวจที่ประสบปัญหานั้นเอาด้วยเพื่อที่จะก้าวผ่านอุปสรรคและเป็นตำรวจที่ดี ทำงานเพื่อประชาชนในพื้นที่ที่รับผิดชอบได้อย่างสง่างาม” พล.ต.ต.วรวัฒน์ กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ สถาบันการเงินที่ข้าราชการที่ประสบปัญหาไปทำการกู้เงินมานั้นเริ่มทีจะฟ้องล้มละลายแล้วหลายคน ซึ่งหากข้าราชการตำรวจถูกศาลสั่งล้มละลาย ก็เท่ากับว่าจะต้องถูกออกจากราชการ ดังนั้นยาแรงที่กำหนดไว้ 5 เม็ด เป็นนโยบายที่สำคัญที่จะต้องทำทันที โดยเฉพาะกับตำรวจที่ประสบปัญหาจากการดำเนินงานของสหกรณ์ในโครงการบริหารจัดการหนี้ตำรวจ ซึ่งหากสรุปจำนวนพบว่ามีตำรวจที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 270 ราย วงเงินหลายร้อยล้านบาท แต่ที่ได้รับผลกระทบและอยู่ในเกณฑ์ที่สหกรณ์ฯจะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาจากเรื่องที่เกิดขึ้นคือ 196 ราย วงเงินรวม 300 ล้านบาท ดังนั้นนโยบายดังกล่าวเป็นสิ่งที่จะต้องทำทันที