มูลนิธิรอยัลแบงค์คอกซิมโฟนีออร์เคสตร้า ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  โดยความสนับสนุนของบี.กริม บีดีเอ็มเอส เมืองไทยประกันภัย และมูลนิธิเอสซีจี ขอเชิญชมคอนเสิร์ตรายการ Beethoven the Creator บรรเลงผลงานของ ลุดวิก ฟาน เบโธเฟน คีตกวีผู้ยิ่งใหญ่ชาวเยอรมัน บรรเลงโดยวงรอยัลแบงค์คอก ซิมโฟนีออร์เคสตร้า (RBSO) ร่วมด้วย ชญณัฐ วิสัยจร ศิลปินนักเปียโนระดับแนวหน้าของไทย บรรเลงเดี่ยวเปียโนคอนแชร์โตหมายเลข 1 ในบันไดเสียง C เมเจอร์ ประพันธ์โดย ลุดวิก ฟาน เบโธเฟน และบทเพลงซิมโฟนีหมายเลข 3 ในบันไดเสียง E แฟลท เมเจอร์ นิคเนมว่า Eroica ผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่นิยมฟังและบรรเลงมากที่สุดในบรรดาบทเพลงซิมโฟนีทั้ง 9 บทของเบโธเฟน อำนวยเพลงโดย มิเชล เทลคิน (Michel Tilkin) ผู้อำนวยการด้านดนตรีวง RBSO สำหรับ คอนเสิร์ต Beethoven the Creator บรรเลงผลงานของ ลุดวิก ฟาน เบโธเฟน นักประพันธ์เพลงชาวเยอรมันผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคโรแมนติค  บทเพลงแรกคือ เปียโนคอนแชร์โตหมายเลข 1 ในบันไดเสียง C เมเจอร์ ผลงานลำดับที่ 15 ท่อนแรก เริ่มด้วยทำนองหลักที่อาจหาญ ช่วงแรกๆ ฟังเหมือนเป็นดนตรีของไฮเดินและโมสาร์ท แต่เบโธเฟนเขียนให้กลองและทรัมเป็ตบรรเลงเพลงอย่างรุนแรงสอดแทรกเข้าไปในทำนองหลักที่ไพเราะ ศิลปินเดี่ยวเปียโนได้นำทำนองหลักที่ถูกนำมาพัฒนามาบรรเลงได้อย่างสวยงาม นักเปียโนได้นำทำนองมาบรรเลงคล้ายการด้นสดเพื่ออวดฝีมือ ท่อนที่สอง ฟังดูเหมือนอ่อนหวานด้วยการ  เติมสร้อยในทำนอง ทว่าเบโธเฟนได้ใส่อารมณ์เข้าไป ทำให้ผู้ที่ได้ฟังครั้งแรกถึงกับหลั่งน้ำตา ทั้งยังให้  คลาริเน็ทเล่นเดี่ยวคลอตอบโต้กับเปียโน  ท่อนสุดท้าย สนุกสนาน มีชีวิตชีวา ศิลปินเดี่ยวเปียโนบรรเลง ด้นสด อวดฝีมืออีกครั้ง และจบลงด้วยความประทับใจ ชญณัฐ วิสัยจร ส่วนซิมโฟนีหมายเลข 3 ในบันไดเสียง E แฟลท เมเจอร์ Eroica เป็นอีกผลงานอันยิ่งใหญ่ที่ประพันธ์โดยเบโธเฟน บทเพลงเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ ความรู้สึก แสดงพลังอย่างกล้าหาญ สง่างาม และเป็นเสียง   แห่งชัยชนะ เป็นซิมโฟนีที่ยิ่งใหญ่ อมตะมาจนทุกวันนี้  โดย เบโธเฟนประพันธ์งานชิ้นนี้ด้วยความรัดทดใจ และความสิ้นหวังเนื่องมาจากอาการหนูหนวก เดิมเขาตั้งใจจะอุทิศงานชิ้นนี้ให้กับนโปเลียน โบนาปาร์ต  ซึ่งขณะนั้นกำลังทำสงครามกับฝรั่งเศส หลังจากได้รับชัยชนะ ด้วยความมักใหญ่ใฝ่สูง นโปเลียนกลับสถาปนาตนเองเป็นจักรพรรดิ ทำให้เบโธเฟนผิดหวังเป็นอย่างมาก ความขัดแย้งนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นพลังในการสร้างสรรค์ เบโธเฟน ได้แหกกฎเกณฑ์และรูปแบบการประพันธ์เชิงขนบดนตรียุคคลาสสิกพร้อมกับแสดงความรู้สึกและอารมณ์อย่างรุนแรง  ดนตรีท่อนแรก องอาจ สง่างาม พร้อมที่จะต่อสู้กับชะตากรรม จบลงด้วยเสียงดนตรีที่เร้าใจ ท่อนที่สอง ขบวนแห่ศพ (Funeral March) ทำนองเศร้าสร้อย หดหู่ อาลัยอาวรณ์ เสียงดนตรีแผ่วเบาดำเนินไปอย่างเชื่องช้า เสมือนขบวนแห่ศพ สะท้อนความรัดทดใจในชะตากรรม ท่อนนี้มีชื่อเสียงมาก มักถูกนำไปบรรเลงในขบวนแห่ศพของบุคลสำคัญ อาทิ ในพิธีแห่ศพประธานาธิบดี จอห์น เอฟ เคนนาดีแห่งสหรัฐอเมริกา ท่อนที่สาม กระฉับกระเฉง มีชีวิตชีวา เสียง กลุ่มฮอร์นเล่นทำนองสง่างามคล้ายสัญญาณแตรที่ใช้ล่าสัตว์ ท่อนสุดท้าย ดนตรีเข้มข้น เบโธเฟนได้นำทำนองต่างๆ ที่เคยประพันธ์ไว้และเขียนขึ้นใหม่ มาบรรเลงพร้อมกันทั้งวง ในแบบแวริเอชั่นหลายบท เสียงดนตรีที่สลับซับซ้อนงดงาม แสดงอารมณ์สุดขั้ว จบลงด้วยดนตรีที่มีความรุนแรง โหมกระหน่ำดุจพายุ ซิมโฟนี EROICA เป็นการเริ่มต้นเข้าสู่ ดนตรียุคโรแมนติค ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บทเพลงนี้เป็นงานประเภทซิมโฟนีที่ถูกนำออกแสดงกันทั่วโลกมากที่สุด โดยการบรรเลงในครั้งนี้เป็นโอกาสที่แฟนเพลงจะได้ร่วมกันรำลึกถึงเบโธเฟน ซึ่งทั่วโลกต่างร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 250 ปีการเสียชีวิตของเขา ด้าน ชญณัฐ วิสัยจร ศิลปินนักเปียโนระดับแนวหน้าของไทย มีผลงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ล่าสุดเขาได้บรรเลงบทเพลง Piano Concerto หมายเลข 5 ของเบโธเฟน ร่วมกับวง RBSO ภายใต้การควบคุมวงของ Kah Chun Wong ผู้อำนวยเพลงชื่อดังชาวสิงคโปร์ และร่วมบรรเลงกับนักฟลุตชั้นนำของโลก Jasmine Choi  โดย ชญณัฐเคยเป็นอาจารย์ผู้ช่วยสอนที่สถาบันดนตรีระดับโลกอย่าง Indiana University Jacobs School of Music เขามีประสบการณ์การเรียนดนตรีแบบเชมเบอร์มิวสิคกับนักดนตรีที่มีชื่อเสียง อาทิ Luba Edlina Dubinsky (สมาชิกวงเชมเบอร์มิวสิคในตำนาน Borodin Trio), Alexander Kerr (อดีต Concertmaster ของวง Royal Concertgebouw แห่งประเทศเนเธอร์แลนด์) นอกจากนี้เขายังได้เข้าเรียนแบบมาสเตอร์คลาสกับปรมาจารย์นักเปียโนระดับโลกอย่าง Dominique Merlet, Robert Levin และ Andrzej Jasinski, Robert McDonald, Phillipe Entremont, Gary Graffman และ Arie Vardi อาจารย์ผู้สอนหลักของชญณัฐประกอบด้วย Panayis Lyras, Emile Naoumoff และ Jean-Bernard Pommier ทั้งนี้ คอนเสิร์ต จัดแสดงในวันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม 2563  เวลา 19.30 น.ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บัตรราคา 300, 700, 900, 1200, 1500 บาท ลด 50% สำหรับนักเรียน/นักศึกษา และผู้มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป จองบัตรได้ที่ ThaiTicketmajor โทร. 0-2262 -3456 หรือ www.thaiticketmajor.com สอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานมูลนิธิ RBSO โทร.0-2255-6617-8 ,0-2 255-9191-2 Email: [email protected]